นครศรีธรรมราช : พุทธศาสนิกชนกว่า 200 คน แห่ร่วมพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ในเทศกาลวันสงกรานต์ 64 เพื่อเป็นสิริมงคล พร้อมรับน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ไปดื่มกิน และเช่าบูชา ‘หัวนะโม’,‘ไอ้ไข่’ (รุ่นป้องกันภัยสิบทิศ) วัดปากลงไว้กันโควิด-19
ที่มูลนิธิแสนคม อุทิศธรรม เลขที่ 5 ซ.พิศาลสุข ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายวิโรจน์ ขวัญเกื้อ ประธานมูลนิธิ ได้จัดกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2564 ตามแบบฉบับประเพณีไทยดั้งเดิม โดยมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมกว่า 200 คน
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่เข้าร่วม เนื่องจากกิจกรรมสรงน้ำพระ ถือเป็นกิจกรรมประเพณีที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยยึดถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน และขาดไม่ได้ แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ก็ตาม แต่ผู้ที่เข้าร่วมทุกคนได้ยึดหลักปฏิบัติตามระเบียบที่ทางการขอความร่วมมือไว้ โดยการเว้นระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัยกันตลอดเวลา
ก่อนกิจกรรมสรงน้ำพระ ประธาน และผู้เข้าร่วมได้พร้อมใจกันประกอบพิธีทางศาสนาโดยการร่วมฟังธรรมโดยพระสงฆ์จากวัดปากลง ต.กรงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 8 รูป พร้อมการสวดเจริญพุทธมนต์ บริกรรมคาถา สวดส่งขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสริมดวงเพิ่มพลัง ป้องกันโรคภัยให้กับผู้ร่วมพิธี และคนไทยทั้งประเทศ ให้รอดพ้นจากโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ตามความเชื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังมีการสวดเสกน้ำมนต์ และวัตถุมงคลต่าง ๆ อย่าง ‘หัวนะโม’ และ‘ไอ้ไข่’ (รุ่นป้องกันภัยสิบทิศ) ที่กำลังเป็นที่ต้องการของผู้คนจำนวนมาก เนื่องจากเชื่อว่าจะสามารถปกป้องคุ้มครองตนเองให้รอดพ้นโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งเมื่อ 3 เดือนก่อนทางมูลนิธิได้มีการนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีขจัดปัดเป่าโรคร้าย พร้อมสวดเสกน้ำมนต์เพื่อแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนไปแล้วรอบหนึ่ง มาครั้งนี้ถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็ได้ทำพิธีสวดเสกน้ำมนต์ขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมทำพิธีขจัดปัดเป่าโควิดไปในตัว
“น้ำมนต์นี้สามารถรักษาโรคต่าง ๆ โรคทางจิตได้ หากผู้ใดถูกผีร้าย โรคร้าย สัตว์ร้าย วิญญาณร้ายเข้าทำร้ายตัว ก็สามารถนำน้ำมนต์นี้ไปขจัดปัดเป่า ดื่มกิน ติดบ้านไว้ วางหน้าบ้าน ตั้งบนหิ้งบูชา ก็สามารถทำได้”
หลังเสร็จสิ้นพิธีพุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมต่างพากันนำขวดพลาสติกมาบรรจุน้ำมนต์ที่ผ่านการสวดเสกแล้วนำไปสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ก่อนนำกลับไปบูชา ดื่มกิน และชำระร่างกาย ตามความเชื่อ และความตั้งใจที่มาร่วมในพิธีในครั้งนี้
นางวรรณา เชาวลิต อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177/150 ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงโรคโควิดที่กำลังแพร่ระบาดอยู่นี้ว่า “มันน่ากลัวมาก มันสามารถติดกันได้ทุกคนในครอบครัว เหตุการณ์มีแต่จะเลวร้ายขึ้น ชีวิตทุกคนกำลังแย่ เกิดความยากจนขึ้น เพราะค้าขายไม่ได้ ไม่ว่าสิ่งไหนที่จะสามารถทำให้สบายใจขึ้นได้ก็จะทำ อย่างวันนี้ตั้งใจมารับน้ำมนต์โดยเฉพาะ เพื่อนำไปดื่มกิน ไปประพรมบ้าน พรมศรีษะ และนำไปผสมน้ำอาบ ตามความเชื่อส่วนตัว ที่ว่าจะสามารถช่วยรักษาโรคร้ายได้ เพราะเป็นน้ำที่ผ่านการสวดเสกเราเห็นด้วยตาตนเอง ไม่ใช่น้ำธรรมดา หรือน้ำมนต์ทั่วไปที่อยู่ตามวัด”
ขณะที่คุณป้าคนหนึ่งกำลังจะนำน้ำมนต์ที่อยู่ในขันไปร่วมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ คุณป้าได้พนมมือพร้อมกับถือขันขึ้นเหนือศรีษะ และกล่าวท่องคำคาถาอะไรบางอย่าง โดยขอให้ตนเองมีแต่ความสุขในชีวิตตลอดไป ให้รอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ขอให้โรคโควิดนั้นหายไปจากโลกนี้โดยเร็ว
สำหรับพระพุทธสิหิงค์องค์นี้มีขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว ความกว้างของฐาน 120 ซม. สูง 1.8 ซม. งบสร้าง 3 แสนบาทด้วยแรงพลังศรัทธา และความเชื่อของพี่น้องชาวพุทธที่มีต่อ ‘ไอ้ไข่’ โดยทางมูลนิธิได้จัดทำรุ่นพิเศษขึ้นช่วงที่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รุ่น “ป้องกันภัยสิบทิศ” วัดปากลง ต.กรงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ให้มีไว้บูชา ป้องกันภัย และนอกจากนี้ยังได้ร่วมกันสร้างพระอุโบสถหลังใหม่มอบถวายให้กับวัดจนแล้วเสร็จ พร้อมกับองค์พระพุทธสิหิงค์องค์นี้ โดยทางมูลนิธิจะนำไปประดิษฐานยังภายในอุโบสถเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้กราบไหว้ต่อไป นายวิโรจน์กล่าว
อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ลิ้งก์ด้านล่าง
