นครศรีธรรมราช :เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 16 ยืนยันติดจากน้องสาว รพ.ลานสกาเร่งตรวจกลุ่มเสี่ยงสูง แม่ และหลาน ขณะที่ท่าอากาศยานแจงมาตรการตามระเบียบทุกขั้นตอน และเข้มงวดในมาตรการตลอดเวลา
วันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2564 ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 16 ซึ่งเป็นผู้หญิง อายุ 41 ปี อาชีพเป็นแม่บ้าน มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช จากการสอบสวนทราบว่าผู้ป่วยรายนี้ซึ่งเป็นรายที่ 16 ได้รับเชื้อมาจากน้องสาวของตนเอง ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-16 รายที่ 11 กลุ่ม คลัสเตอร์ 100 สนาม อ.พิปูน และอยู่ใกล้ชิดภายในครัวเรือน เป็นพี่เลี้ยงบุตรของผู้ป่วย โดยในวันที่ 6 -ึ7 เมษายน 2564 ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
วันที่ 8 เมษายน 2564 เดินทางด้วยรถแท็กซี่ พร้อมด้วย มารดา และบุตร ไปยังบ้านพักมารดาที่ ม.3 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
วันที่ 9 เมษายน 2564 ทีม SCOT รพ.ลานสกา มารับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 3 ราย เพื่อตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ที่ รพ.ลานสกา และกลับมากักตัวรอผลตรวจอยู่ที่บ้าน ม.3 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา
วันที่ 10-11 เมษายน 2564 อยู่บ้าน ม.3 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกาตลอดทั้งวัน โดยผลตรวจหาเชื้อทั้ง 3 คน ไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่ผู้ป่วยเริ่มมามีอาการเจ็บคอ ไข้ ไอ มีเสมหะ ลิ้นไม่รับรส คันตามแขนขา ในวันที่ 11 ในช่วงเย็นผู้ป่วยได้แยกตัวเองไปอยู่อีกหลัง
วันที่ 12 เมษายน 2564 ผู้ป่วยอยู่ที่บ้านอีกหลังตลอดทั้งวัน
วันที่ 13 เมษายน 2564 เข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้งที่ รพ.ลานกา ทีม SCOT รพ.ลานสกา มารับผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัว
วันที่ 14 เมษายน 2564 รพ.ลานสกาส่งตัวผู้ป่วย
ขณะที่ ทางท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ได้ส่งจดหมายชี้แจงมาตรการ ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด -19 ว่า กรณีผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้โดยสารเดินทางเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นเพศหญิง จำนวน 1 ราย เดินทางกับสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL 792 เส้นทาง ท่าอากาศยานดอนเมือง – ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช โดยเครื่องบินออกจากดอนเมือง เวลา 17.10 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เวลา 18.35 น. โดยผู้โดยสารท่านดังกล่าวได้โทรศัพท์แจ้งไปยัง รพ.มหาราชด้วยตนเอง ว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด -19 ให้ทางโรงพยาบาลมารับเพื่อเข้ารับการรักษาตัวตามกระบวนการของสาธารณสุข
ทางท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ขอชี้แจงว่า ท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของกรมท่าอากาศยานทุกแห่งได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด -19 โดยปฏิบัติตามแนวทาง D-M-H-T-T ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และยังคงตั้งจุดลงทะเบียนสแกนคิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าออกของผู้โดยสาร ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม การคัดกรองผู้โดยสารทั้งเที่ยวบินขาเข้า และขาออก และเน้นย้ำให้ทุกคนที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
สำหรับการรักษาความสะอาด ท่าอากาศยานทุกแห่งได้ดำเนินการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารก่อนจุดรับกระเป๋าทุกเที่ยวบิน พร้อมตั้งจุดบริการเจล แอลกอฮอร์ล้างมือตามจุดต่าง ๆ และทำความสะอาดโดยใช้ แอลกอฮอร์ และน้ำยาฆ่าเชื้อ ในบริเวณพื้นอาคาร ห้องน้ำ รถเข็น เก้าอี้ที่พักผู้โดยสาร ราวบันได ลิฟต์โดยสาร และอุปกรณ์สำหรับให้บริการ รวมถึงอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ ทุกชั่วโมง หรือหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทุกเที่ยวบิน รวมถึงทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร ทุกสัปดาห์ ตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด -19 ของกระทรวงสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้โดยสารที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานมั่นใจปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด -19
อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิ้งก์ด้านล่าง
