นครศรีธรรมราช : 13 เม.ย.64 เกิดอุบัติเหตุ 16 ครั้ง บาดเจ็บ 17 คน (อันดับ 1 ของประเทศ) แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วน 4 วันสงกรานต์ ครองแชมป์เกิดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด เสียชีวิตเท่าเดิม 2 คน
วันที่ 14 เมษายน 2564 นายสนั่น สนธิเมือง ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปสถานการณ์การใช้รถใช้ถนน ประจำ วันที่ 13 เมษายน 2564 วันที่ 4 ของการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” จ.นครศรีธรรมราช มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 16 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 17 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต สะสมรวม 4 วัน จากวันที่ 10-13 เมษายน 2564 มีจำนวนอุบัติเหตุ 65 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 69 คน เป็นชาย 49 คน หญิง 20 คน และมีผู้เสียชีวิต 2 คน (อ.ทุ่งใหญ่และท่าศาลา)
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ จากการมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย และสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ มีสิ่งกีดขวางบนถนน ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ถนน อบต./หมู่บ้าน อำเภอที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จำนวน 13 ครั้ง
ที่ประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์ประจำวัน การดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 ยังติดตามกรณีอุบัติเหตุ รถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำจนเกิดเพลิงไหม้รถเสียหายทั้งคัน เหตุเกิดบนถนนสาย 41 บริเวณใกล้เชิงสะพานหนองหว้า ด้านขาล่องใต้เยื้องกับห้างแม็คโคร สาขาทุ่งสง อ.ทุ่งสง ทราบว่า เกิดจากรถเก๋งวิ่งตัดหน้า ทำให้คนขับรถบรรทุกน้ำมันหักหลบจนรถพลิกคว่ำดังกล่าว ส่วนคนขับรถสามารถหนีออกจากรถได้ทัน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า อำเภอที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอช้างกลาง ถ้ำพรรณรา นบพิตำ นาบอน บางขัน และอำเภอเชียรใหญ่ ส่วนผลการดำเนินการตามาตรการ 10 รสขม สะสม 4 วัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 3,952 ราย ส่วนใหญ่ไม่สวมหมกนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ตามลำดับ
ที่ประชุมกำชับไปยังผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจหลัก/ด่านชุมชน ให้กวดขันเรื่องขับรถเร็ว การเมาแล้วขับ รวมทั้งการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกกันน็อกหรือหมวกนิรภัย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้มีผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ขอให้ขับขี่รถทุกประเภทด้วยความระมัดระวัง ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด คือ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด, ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร, ไม่ขับรถย้อนศร, มีใบขับขี่, คาดเข็มขัดนิรภัย, ไม่แซงในที่คับขัน, ไม่ขับขี่รถขณะเมาสุรา, สวมหมวกนิรภัย, ไม่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ปลอดภัย และไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ และที่สำคัญต้องปฏิบัติมาตรการ D-M-H-T-T (เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สแกนแอปพลิเคชันไทยชนะและหมอชนะ) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัดด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ :
