นครศรีธรรมราช : ขึ้นป้ายข้อความสีแดง อ้างชื่อ ‘ชาวนาเคียน’ คัดค้านสร้าง รพ.สนาม ที่หอประชุมเมืองท่าลาด ขู่ ถ้าตั้งจะเผา ให้ไปตั้งที่บ้านปลัดเทศบาลแทน ขณะที่อำเภอรีบแจง ไม่คิดตั้ง
วันที่ 27 เมษายน 2564 ที่หอประชุมเมืองนครศรีธรรมราช ทุ่งท่าลาด ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ตำบลนาเคียน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่อ้างว่า ‘เป็นชาวตำบลนาเคียน’ นำป้ายผ้าสีขาว ที่เขียนข้อความสีแดง 3 ป้าย แสดงการคัดค้านการใช้หอประชุมเมืองทุ่งท่าลาด จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมข้อความข่มขู่ว่าหากจัดตั้ง รพ.สนาม จะเผาทิ้ง และให้ไปตั้งที่บ้านปลัดเทศบาลเอง
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่พากันวิตกกังวลว่า การนำผู้ป่วยโควิด-19 จากต่างพื้นที่เข้ามารักษาตัวใน ต.นาเคียน อาจจะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคมายังชาวบ้านในพื้นที่ได้ จึงมีปฏิกิริยาคัดค้านขึ้น จึงให้ผู้ป่วยแต่ละพื้นที่ดูแลกันในพื้นที่ของตัวเอง สำหรับตำบลนาเคียน ได้เตรียมพื้นที่ไว้แล้ว ที่โรงเรียนบ้านคลองดิน ถ้าพบผู้ป่วยเป็นชาวนาเคียนเอง จะให้กักกันหรือทำเป็นโรงพยาบาลสนาม
อย่างไรก็ตาม ภายหลังภาพป้ายดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียล ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ได้ออกประกาศปฏิเสธเรื่องดังกล่าว ระบุว่า ตามที่มีข่าวลือในสื่อสังคมออนไลน์ว่า จะใช้หอประชุมอำเภอเมือง บริเวณทุ่งท่าลาด ตำบลนาเคียน เป็นโรงพยาบาลสนามนั้น อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้รับแจ้งจากทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ผู้รับผิดชอบสถานที่ว่า ไม่มีแผนในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามโดยใช้สถานที่ดังกล่าวแต่อย่างใด และขอความร่วมมือติดตามข้อมูลจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด มีรายงานว่า กองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ สั่งการให้ทหารฝ่ายข่าวกรอง ลงพื้นที่สืบหาข้อมูลเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเป็นแนวความคิดของผู้ใด ใครอยู่เบื้องหลัง ใครเป็นแกนนำ และมีใครเป็นแนวร่วม ในการเขียนป้ายผ้าลักษณะดังกล่าวและนำไปติดตั้งไว้ที่หอประชุมฯ แล้วรายงานให้ทราบ เพื่อพิจารณาดำเนินการเอาผิดต่อไป
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน ของจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น วันนี้ (27 เม.ย.64) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 คน สะสม 257 คน (ผู้ป่วยรายเดิมจากสุราษฏร์ธานี 2 คน) ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 241 คน และรักษาหายแล้ว 16 คน
อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
