นครศรีธรรมราช : ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ชี้แจงกรณีฝ่ายปกครองบุกจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 3 ราย ถูกโยงเป็นเครือข่ายเรือนจำ ยืนยันไม่ใช่แน่นอน เพราะเรือนจำปราศจากยาเสพติดมากว่า 4 ปีแล้ว แม้แต่เครื่องมือสื่อสารก็เล็ดลอดมาไม่ได้
วันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ความคืบหน้ากรณีฝ่ายปกครอง โดยปลัดอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นำทีม ชุดเฉพาะกิจผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช บุกเข้าจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด ด้วยการล่อซื้อ ภายในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 2,012 เม็ด และยาไอซ์อีก 100 กรัม โดย 2 ใน 3 ผู้ต้องหา เพิ่งพ้นโทษมาจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ในคดียาเสพติดเมื่อไม่นานมานี้ และ 1 ใน 2 รายนั้น ยังคงอยู่ระหว่างการพักโทษ ซึ่งยังมีกำไลอีเอ็ม (EM) ติดอยู่ที่บริเวณข้อเท้าของผู้ต้องหา หลังการสอบสวนพบว่าแก๊งค้ายาเสพติดนี้ ถูกโยงใยว่าเป็นเครือข่ายเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
หลังข่าวเผยแพร่ออกไป ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างหนักของยาเสพติดในจังหวัดนครศรีธรรมราชในขณะนี้ และโยงไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ครั้งที่เกิดปฏิบัติการ ‘สายฟ้าแลบ’ เข้าจู่โจมตรวจสอบเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ในแดนผู้ต้องขังชาย ซึ่งพบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายมากมาย โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่มีการแอบลักลอบนำเข้าไปให้กับนักโทษ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารติดต่อซื้อขายยาเสพติดกับเอเยนต์ที่อยู่ภายนอก จนตกเป็นข่าวดังครึกโครมไปทั่วใจ
: แฟ้มภาพ
ข่าวน่าสนใจ:
- ‘นครพนม’ เดินหน้าขับเคลื่อน ‘นครพนมโมเดล’ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประชาชนมีความสุขที่สุด
- นัตตี้ส์แอดเวนเจอร์ส บุก WTM ลอนดอน ชวนคนทั้งมวลเที่ยวไทย
- กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงกรณีคดีหาดวาสุกรี ยืนยันพร้อมส่งเสริมการแต่งกายชุดมลายู
- พะเยา หนุ่ม ซวยซ้ำซ้อน จยย.แฉลบข้างทางเจอเก๋งเสียหลักทับร่างดับคาที่
การกวาดล้างในครั้งนั้น ทำให้เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กลายเป็น ‘นครโมเดล’ นำไปสู่การปฏิบัติการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำทั่วประเทศ โดยทาง’กรมราชทัณฑ์’ประกาศให้เรือนจำทุกแห่งต้องเป็น ‘เรือนจำสีขาว’ ปราศจากยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด กระทั่งยาเสพติดทั้งยาบ้า และยาไอซ์ได้กลับมาระบาดรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เข้าถึงคนทุกกลุ่มและทุกเพศวัย เพราะมีราคาถูก โดยเฉพาะยาบ้า ซื้อขายปลีกกันในราคาเม็ดละไม่เกิน 40-50 บาท ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยว่า อาจมีฐานการผลิตยาเสพติดอยู่ในพื้นที่ หรือใกล้เคียง ทำให้ราคาลดลงอย่างน่าใจหาย ประกอบกับไม่ค่อยมีข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบขนย้ายยาเสพติดให้เห็นอีกเลย ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ายาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และเครือข่ายค้ายาเสพติดอาจกลับเข้ามาอยู่ในเรือนจำอีกครั้งเหมือนอย่างในอดีตเมื่อหลายปีก่อนก็เป็นได้
: แฟ้มภาพ
ล่าสุด พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยข้อมูลต่อผู้สื่อข่าว 77 ข่าวเด็ดประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่า ทางเรือนจำได้ตรวจสอบแล้ว จากทั้งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และตัวผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัว ทราบว่าเป็นการล่อซื้อจากผู้ต้องหารายอื่น และนำไปสู่การขยายผลจับกุมผู้ต้องหา 3 คนตามข่าว โดยรับว่า 2 คนที่ถูกจับนั้น เคยเป็นนักโทษของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชจริง โดยพ้นโทษไปเมื่อเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา และได้ไปกระทำความผิดขึ้นอีกครั้ง แต่เป็นการกระทำความผิดหลังจากที่พ้นโทษไปแล้ว
ส่วนผู้ต้องหาอีกรายที่อยู่ระหว่างการพักโทษ มีกำไลข้อเท้า (EM) ติดอยู่ แล้วกลับไปกระทำความผิดซ้ำ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผิดเงื่อนไขการคุมประพฤติ จะต้องกลับไปรับโทษเดิมที่ถูกพักอยู่ พร้อมโทษใหม่ที่กระทำความผิด ปัญหานี้ทางเรือนจำตระหนักดี แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก โดยจะนำไปหารือเพื่อปรับปรุงแก้ไขมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมนั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายเรือนจำ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักโทษที่ยังอยู่ภายในอย่างแน่นอน
“ผ่านมาไม่น้อยกว่า 4 ปีแล้ว ที่เรือนจำเป็นสถานที่ปราศจากยาเสพติด และเครื่องมือสื่อสารทุกประเภท ขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ไม่มีเครือข่ายค้ายา และไม่เป็นฐานการสั่งซื้อขายยาเสพติดมานานแล้ว ไม่เหมือนช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงเรือนจำอื่น ๆ ทั่วประเทศด้วย” ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กล่าว
อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: