นครศรีธรรมราช : หนุ่มอดีต พนง.โรงแรม บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ชาวนครศรีธรรมราช เครียดตกงาน เพราะพิษโควิด-19 กลับมาอยู่บ้านกับเมียที่กำลังท้อง เงินไม่พอใช้จ่าย ตัดสินใจยึดอาชีพลักขโมย อาศัยความมืด ขี่ จยย.ฉายเดี่ยวออกตระเวนงัดรถลักหม้อแบตเตอรี่ของชาวบ้านขาย หาเงินซื้อยาเสพเลี้ยงดูเมียและลูกในท้อง ก่อนถูกจับอนาคตดับ
16 พ.ค.2564 พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้คุมตัวนายชัยวุฒิ หรือนัด วงศ์ปาลามานนท์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 ซอยทุ่งข่า ถ.กะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ‘หม้อแบตเตอรี่รถยนต์’พร้อม รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาวดำ ทะเบียน กฉ-3298 นครศรีธรรมราช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณหน้า สนง. SCG ขนส่ง ริมถนนสายเบญจมฯ-บางปู ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็น 1 ใน 6 จุดของสถานที่ ที่ผู้ต้องหาออกตระเวนก่อเหตุถึง 6 ครั้ง ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าต้องการนำเงินเพื่อไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการคลอดลูก
ซึ่ง จนท.ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำการชี้จุดเกิดเหตุ ที่ได้ทำการงัดฝากระโปรงรถยนต์กระบะคันหนึ่งของทางบริษัท โดยจำลองวิธีขั้นตอนการก่อเหตุ เริ่มจากการงัด แต่ไม่สามารถงัดได้จึงตัดสินใจทุบกระจกรถจนแตก แล้วล้วงมือเข้าไปเปิดฝากระกระโปรงภายในรถ ก่อนลงมือถอดหม้อแบตเตอรี่ออก โดยนำไปเก็บไว้ภายในห้องพัก ที่อพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง ในซอยสารีบุตร ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ที่อาศัยอยู่กับเมีย รอเวลาจนถึงเช้า และนำเอาไปขายยังร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่ง ที่อยู่ริมถนนอ้อมค่ายในราคา 400 บาท
นายชัยวุฒิหรือนัด ผู้ต้องหา ได้ให้เหตุผลถึงความจำเป็นที่จะต้องออกตระเวนลักขโมยนั้น เพราะเครียดกับปัญหาชีวิต ที่ก่อนหน้านี้มีงานทำที่ดีอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จนกระทั่งเกิดโรคระบาดโควิด-19 และพิษภัยผลกระทบจากเศรษฐกิจตลอดหลายปีที่ผ่านมา ชีวิตจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เมื่อต้องกลับมาอยู่บ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังตกงาน นานวันเข้าจึงเกิดความเครียด ไม่มีงานทำ เงินไม่มีใช้ ภรรยาก็ใกล้จะคลอด จึงหันไปพึ่งยาเสพติด จนสุดท้ายต้องออกตระเวนลักขโมยเพียงเพราะต้องการเงินมาไว้เพื่อเสพยา และเก็บสะสมเตรียมไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรให้กับทางโรงพยาบาล
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- โครงการวิลล่าหรูเกาะสมุยฝืนคำสั่งรื้อถอนอาคาร ยังปล่อยให้ต่างชาติเช่าวิลล่า
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รอง ผกก.สส.ภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ซึ่งมักจะอาศัยช่วงเวลากลางดึกของทุกคืน ออกตระเวนก่อเหตุเพียงลำพัง โดยอาศัยความชำนาญ ทำการงัดฝากระโปรงหน้ารถของรถยนต์กระบะที่จอดทิ้งไว้ในที่มืดและเปลี่ยว ก่อนยกเอาหม้อแบตเตอรี่ขึ้นรถ จยย.ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาก่อเหตุเพียงไม่กี่นาที ซึ่งก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง แต่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพียง 6 ราย รถ 6 คันเท่านั้น ซึ่งทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ทำการสืบสวนแกะรอยคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดจากจุดต่าง ๆ จนสามารถติดตามจับกุมได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้องพักอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว ก่อนคุมตัวมาสอบสวน พร้อมนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้
สำหรับพื้นที่ก่อเหตุประกอบด้วย บ้านเลขที่ 102/3 ม.8 ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช, บ้านเลขที่ 3/105 ซ.สารีบุตร ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.คลัง อ.เมือง,หน้าร้านเมเจอร์ไฟเบอร์ซัพพลาย ทางเข้าหมู่บ้านเมืองทอง ต.ในเมือง อ.เมือง,ลานจอดรถศูนย์อาหารราชพฤกษ์ ต.ท่าซัก อ.เมือง,ริมถนนสายอ้อมค่าย ตรงข้าม รพ.นครินทร์ ต.ท่าวัง อ.เมือง,ริมถนนหน้าโรงแรมออปอินท์ ต.ท่าวัง อ.เมือง,หน้าบ้านเลขที่ 574/55 ม.5 ต.ปากพูน อ.เมือง,หน้าร้านทรัพย์ไพบูลย์การเกษตร เลขที่ 175/31 ม.4 ต.ท่าซัก อ.เมือง และบริเวณหน้าบริษัทเอสซีจี เอ็กเพลส เลขที่ 14 ถ.เอเชีย ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: