นครศรีธรรมราช : หนุ่มเมืองคอนเมายาบ้าเกิดอาการคลุ้มคลั่งเดินถือมีดพร้าออกอาละวาดขว้างปาก้อนหินใส่บ้านเรือนพังเสียหาย พากันผวาหนักหวั่นได้รับอันตราย ร้องขอ จนท.จับดำเนินคดี พาตัวไปบำบัดรักษาอย่างจริงจัง
วันที่ 28 พ.ค.64 นางสาวชลิตา ทองศรีจันทร์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้ขอให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าควบคุมตัวนายธเนศ ทองนอก อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204/3 หมู่ 5 ต.พรหมโลก ได้ก่อเหตุทำลายทรัพย์สินบ้านเรือนของตนเองจนได้รับความเสียหาย ด้วยเพราะฤทธิ์ของยาเสพติด พร้อมนำคลิปวีดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ขณะนายธเนศ กำลังก่อเหตุขว้างปาก้อนหินใส่ตัวบ้านจนกระจกหน้าต่างบานประตูแตก รวมถึงข้าวของอื่น ๆ ที่อยู่ภายในเสียหาย เพื่อต้องการร้องขอให้ จนท.เร่งเข้าควบคุมตัวพาไปบำบัดรักษา เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตอีกต่อไป
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ค.64 ที่ผ่านมา โดยคลิปได้เผยให้เห็นชายหนุ่มที่กำลังออกอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนักอาละวาดขว้างปาก้อนหินขนาดใหญ่น้อยเข้าใส่ตัวบ้านของผู้เสียหายตั้งอยู่เลขที่ 42/1 หมู่ 5 บ้านปลายอวน ต.พรหมโลก คล้ายคนเมายาเสพติด พร้อมกับพูดจาเอะอะโวยวายด่าทอเจ้าของบ้านไปด้วย ขณะเดียวกันผู้เสียหายก็ได้ด่าทอต่อว่ากลับ พร้อมกับถ่ายคลิปวีดีโอบันทึกเหตุการณ์เอาไว้เป็นหลักฐาน โดยบอกกับผู้ก่อเหตุว่าจะนำไปแจ้งความดำเนินคดี ให้ตำรวจมาจับ ส่งผลให้ผู้ก่อเหตุเกิดความคึกคะนองเพิ่มขึ้นและลงมือกระทำอย่างเมามัน
ข่าวน่าสนใจ:
- สลด เจ็ทสกีชน นทท.จมทะเลหาย ศพโผล่กลางดึก หาดกะรน ต.กะรน จนท.เร่งสืบสวน
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
น.ส.ชลิตา (ผู้เสียหาย) ให้ข้อมูลว่า นายธเนศ (ผู้ก่อเหตุ) เป็นพี่ชายต่างพ่อกัน ที่ผ่านมาตัวนายธเนศเองมีพฤติกรรมชอบเสพยาเสพติด ทุกครั้งหลังเสพยาก็จะเกิดอาการคลุ้มคลั่งโวยวายทำลายข้าวของทรัพย์สินภายในบ้าน ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง และยังเคยทำร้ายร่างกายคนในบ้านจนได้รับบาดเจ็บมาแล้วด้วย แต่ไม่มีใครกล้าเอาความ และไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะนายธเนศเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบใช้ความรุนแรง ที่สำคัญตัวนายธเนศมักจะพกพาอาวุธมีดติดตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหวั่นเกรงว่าจะได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจและเกรงจะไม่ปลอดภัยกับทุกชีวิตของคนที่อยู่ในบ้าน โดยเฉพาะเด็ก ๆ และคนชรา ที่ผ่านมาได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังผู้นำชุมชน รวมถึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมคีรี ให้ทราบถึงพฤติกรรมของนายธเนศมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกครั้งหลังก่อเหตุ ตัวนายธเนศเองก็จะหลบหนีขึ้นไปอยู่บนเขาซึ่งยากต่อการติดตามตัวมาดำเนินคดี
ก่อนหน้าประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมานายธเนศเอง ได้เคยก่อเหตุจุดไฟเผาขนำในสวนผลไม้มาแล้ว ครั้งนั้นเจ้าหน้าตำรวจ ฝ่ายปกครองอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้ามาระงับเหตุพร้อมควบคุมตัวไปดำเนินคดีและส่งตัวไปเข้ารับการบำบัดรักษา แต่สุดท้ายหลังออกมาได้ไม่นานก็กลับมาก่อเหตุวุ่นวายให้กับคนในครอบครัวขึ้นอีกครั้ง ตนเองและชาวบ้านต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินคดีให้รับโทษติดคุกหรือบำบัดรักษาให้หายจากการติดยาเสพติด เพราะหากปล่อยไว้คงไม่ปลอดภัยอาจมีคนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้แน่ ๆ น.ส.ชลิตา กล่าว
นายสมนึก ศรีศักดิ์ สารวัตรกำนัน ต.พรหมโลก กล่าวว่า ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วยนางอาภรณ์ คีรีคช กำนัน ต.พรหมโลก และผู้ช่วย ผญบ.ร่วมกับ ตร.สายตรวจ 191 ในพื้นที่ ได้เข้าไประงับเหตุที่นายธเนศได้ก่อเหตุวางเพลิงขนำในสวนผลไม้ โดยคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับส่งตัวไปเข้ารับการบำบัดรักษามาแล้วถึง 2 ครั้ง ในครั้งแรกส่งตัวไป รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช แต่ก็ได้หลบหนีออกมา ครั้งต่อมาไปเข้ารับการบำบัดได้เพียง 3 วัน ก่อนกลับออกมาก่อเหตุขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 26 พ.ค.64 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ ทางผู้นำชุมชน ได้เข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นระยะ ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก พร้อมเฝ้าติดตามตัวนายธเนศเพื่อนำตัวไปบำบัดรักษา แต่ขณะนี้ตัวผู้ก่อเหตุเองไม่อยู่ในพื้นที่ โดยทราบว่าได้หลบหนีขึ้นไปซ่อนตัวอยู่บนเขาตั้งแต่หลังก่อเหตุ
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตัวผู้ก่อเหตุเองได้มีคนในครอบครัวเองคอยถือหางให้ท้ายพร้อมให้การปกป้องมาตลอด และไม่ให้ความร่วมมือกับ จนท. ด้วยการปกปิดข้อเท็จจริงต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายของตัวนายธเนศเอง จน จนท.ก็ไม่อยากที่จะไปก้าวล่วงเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่มาครั้งนี้ทุกคนรวมถึงชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเรียกร้องให้ จนท.มารับตัวไปโดยเร็ว เนื่องจากค่อนข้างวิตกกังวลใจกันเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะสร้างความเดือดร้อนไปถึงบุคคลภายนอก เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ก่อนช่วงกลางดึกได้มีเหตุรถยนต์กระบะของชาวบ้านที่เป็นคนในพื้นที่ ถูกคนร้ายดักซุ่มปาหินใส่กระจกรถจนแตกเสียหาย แต่ไม่สามารถหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ สถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ใกล้กับบ้าน น.ส.ชลิตา บ้านที่นายธเนศพักอาศัยอยู่ (หลังที่ลงมือก่อเหตุปาหิน) ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น ซึ่งผู้เสียหายสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุก็น่าจะเป็นคนคนเดียวกัน อีกทั้งตัวผู้ก่อเหตุเองก็เคยต้องโทษจำคุกในคดีฆ่าคนตายมาแล้ว ทำให้ผู้เสียหายและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างพากันหวาดกลัวผวาเกรงว่าภัยจะมาถึงตนเองในไม่ช้า นายสมนึก กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: