นครศรีธรรมราช : ตัวแทนเกษตรกรขาย’พริกเขียวมัน’ กว่า 20 คน บุกศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ยื่นหนังสือถึงพ่อเมือง ขอความช่วยเหลือ หลัง คนของ ส.ส.พรรค พปชร.นครศรีธรรมราช จัดหาคนมารับซื้อแล้วไม่จ่ายเงิน พร้อมเข้าแจ้งความฐานฉ้อโกงหลอกลวง ปชช.
วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ที่ลานตะเคียน ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มเกษตรกรปลูก‘พริกเขียวมัน‘ ลุ่มน้ำปากพนัง จาก 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.หัวไทร อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.เชียรใหญ่กว่า 20 คน เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่าน ศูนย์ดำรงธรรม ขอให้ทางจังหวัดช่วยเร่งรัด ติดตามการซื้อขายพริกเขียวมันจากผู้ประกอบการ รับซื้อไปแล้วยังไม่ได้รับเงิน โดยมีนายปรีชา ชนะกิจกำจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นตัวแทนมารับหนังสือในครั้งนี้
นายชาตรี เพชรแก้ว ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า เกษตรกรที่นำพริกเขียวมัน ไปขายที่ สหกรณ์การเกษตร อ.หัวไทร ตามโครงการแก้ไขปัญหาราคาพริกตกต่ำ ซึ่งจุดรับซื้อก็เป็นจุดที่จังหวัด จัดให้โดยมีเกษตรกรนำพริกไปขายในราคา กก.ละ 14 บาท เป็นการซื้อพริกเขียวแบบชี้นำ ในราคา กก.ละ 14 บาท โดยที่ผู้ประกอบการรับซื้อจุดนี้จะซื้อแพงกว่า ผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับภาครัฐกว่า 40 จุด
เท่าที่ทราบผู้ประกอบการรายนี้ระบุว่ามารับซื้อพริกเขียวมันตามคำสั่ง ส.ส. ซึ่งเกษตรกรไม่ได้สนใจว่าใครรับซื้อ แต่ขอให้มีราคาดี คุ้มทุน อาจมีกำไรเพียงน้อยนิดก็ขายทันที
ตัวแทนเกษตรกร รายหนึ่งระบุว่า “พวกเรานำพริกไปขายกว่า 10 ตัน เวลานี้ยังไม่ได้เงินกว่า 7 แสนบาท แรก ๆก็จ่ายดี หลังจากนั้นก็หยุดรับซื้อ พริกก็ขายถูกแล้วอย่าเอาความเดือดร้อนของประชาชนเล่นการเมือง พวกเราจึงร่วมเข้าชื่อส่งจดหมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วยเร่งติดตามผู้ประกอบการชุดนี้ ซึ่งประกอบด้วย ส.ส.พรรคหนึ่ง นครศรีธรรมราช ร่วมกับ ส.ส.สงขลา โดยมีตัวแทน ส.ส.เป็นผู้ดำเนินการรับซื้อและส่งขึ้นรถตู้คอนเทนเน่อร์ของ’บริษัทคาบสมุทร’ส่งไปยังประเทศมาเลเซีย เท่าที่ทราบก่อนส่งพริกขึ้นตู้คนเทนเน่อร์ได้นั้นก็จะต้องมีการจ่ายเงินให้แล้วเสร็จ ถามว่าแล้วเงินไปอยู่ที่ไหน พวกเราไม่ใช่เป็นคนหาเช้ากินค่ำแล้ว ตอนนี้หาเช้ากินเช้า ลูกก็เปิดเทอม ค่าจ้างเก็บพริกก็ต้องจ่ายจะเอาอย่างไรกัน“
“นายจุลินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะได้เดินทางมาที่ อ.หัวไทร พวกเราไม่ทราบ หากทราบพวกเราจะเดินทางไปยื่นหนังสือแล้ว เรามารู้อีกที ทางสื่อนำเสนอว่านายจุลินทร์ลงมาแก้ปัญหาเรื่องมังคุดทุเรียน แล้วทำไมไม่ไปที่ลานสกา พรหมคีรี หรือ นบพิตำ พื้นที่ลุ่มน้ำ ฟักแฟง ฟักทอง พริกเขียวตกต่ำทำไมไม่พูดกันบ้าง“
ด้านนายปรีชา กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือแล้วจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองจะเรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมด ขอเวลา 1 สัปดาห์ แล้วจะให้คำตอบ ผมต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ภายหลังยื่นหนังสือเสร็จกลุ่มเกษตรกรได้เดินทางต่อไปยังสภ.หัวไทรเพื่อลงบันทึกประจำวันและแจ้งความเอาผิดกับ ส.ส.นครศรีธรรมราช คนหนึ่งของ พรรค พปชร. ต่อ ร.ต.อ อุดม ภู่ภิรมย์ พนักงานสอบสวน สภ.หัวไทร
เนื่องจากเป็นผู้ดำเนินการในโครงการแก้ไขปัญหาราคาพริกตกต่ำให้กับเกษตรกรดังกล่าว
