นครศรีธรรมราช : เกษตรกรพริกเขียวมัน รวมตัวเตรียมแจ้งความเอาผิด ผู้ประกอบการรับซื้อพริก หลังไม่ยอมจ่ายเงิน จนต้องรีบเข้าเคลียร์ ตัวแทนเกษตรกร เล็งเข้าพบ ‘นายชวน หลีกภัย’ จี้สอบคุณธรรมจริยธรรม นักการเมืองมีเอี่ยว
วันที่ 9 มิถุนายน 2564 ความคืบหน้า กรณีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวมัน 3 อำเภอโซนลุ่มน้ำ จ.นครศรีธรรมราช เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ช่วยติดตามเร่งรัดการจ่ายเงินค่าพริกเขียวมัน จากผู้ประกอบการรายหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนของนักการเมืองในพื้นที่ มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เช้าวันนี้ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวมันกว่า 30 คน ได้ไปรวมตัวกันที่ สหกรณ์การเกษตรหัวไทร ต.แหลม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรหัวไทร เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์และดำเนินคดีเอาผิดกับตัวผู้ประกอบการที่เข้ารับซื้อพริกดังกล่าวจากเกษตรกร รวมถึง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ ซึ่งเป็นบุคคลต้นเรื่องของปัญหาทั้งหมด หลังปฏิเสธความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเงินค่าผลผลิตที่รับซื้อไปแล้ว แต่กลับไม่นำเงินมาจ่ายให้เกษตรกร จนผ่านระยะเวลาไปนานนับเดือน กระทั่งมีการออกมาต่อสู้เรียกร้องทวงความเป็นธรรม และเงินค่าผลผลิตทุกบาททุกสตางค์ให้กับตัวเกษตรกรเองมาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมจะเอาผิดให้ถึงที่สุด ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ
นายชม เกื้อกูล อายุ 63 ปี อยู่เลขที่ 43/4 ม.4 ต.ควนชะลิก อ.หัวไทร หนึ่งในเกษตรกรผู้เสียหาย และเป็นผู้รวบรวมรับซื้อพริกจากเกษตรกรรายอื่นมาจำหน่าย รวมกว่า 600 กก. คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 9,184 บาท ให้ข้อมูลว่า ตนเองนำผลผลิตมาขายเพียงครั้งเดียว และไม่คิดจะนำมาขายอีกเลย หลังรู้ว่าผู้ซื้อเป็นใคร ซึ่งรู้ประวัติเป็นอย่างดี และหวั่นใจมาตลอดว่าจะไม่ได้รับเงินจากการขายพริก สุดท้ายสิ่งที่คิดไว้ก็เป็นจริง ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับผู้เสียหายรายอื่น ๆ เพื่อเรียกร้องเงินคืน แต่ก็ไม่ได้คาดหวังมาก และในวันนี้ ต้องการมาเข้าร่วมเพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่เข้ามารับซื้อ
ด้าน น.ส.วรรณดี คงสวัสดิ์ เกษตรกรผู้เสียหายอีกราย บอกว่า นำพริกมาขายทั้งหมด 1,237 กก. ซึ่งปลูกมาด้วยมือของตนเอง ซึ่งจะต้องได้เงินตอบแทนค่าเหนื่อย 17,000 กว่าบาท แต่ผลสุดท้ายกลับไม่ได้เลยแม้แต่บาทเดียว รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำได้แต่เพียงรอด้วยความหวัง เดินทางมาครั้งนี้เพื่อแจ้งความเอาผิดเพื่อให้ได้เงินคืนทั้งหมด
พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวไทร กล่าวกับกลุ่มเกษตรกรว่า อยากทราบข้อเท็จจริงก่อนที่กลุ่มผู้เสียหายจะเดินทางไปแจ้งความ ซึ่งทางตำรวจพร้อมที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหายทุกคน และพร้อมประสานไปยังผู้ประกอบการ เพื่อให้เข้ามาเจรจาหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้ หากเจรจากันแล้วแต่ยังไม่มีการแก้ไขให้เหตุการณ์ดีขึ้น ก็จะให้เกษตรกรทุกคนเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที
ขณะที่ นายชาตรี เพชรแก้ว ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ในฐานะตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า วันนี้ เกษตรกรผู้เสียหายมารวมตัวกันเพื่อต้องการแจ้งความเอาผิด ส.ส. กับผู้ประกอบการอีก 20 ราย ที่เข้ามารับซื้อ หลังถูกปฏิเสธและบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบมาตลอด ทั้งตัว ส.ส. และผู้รับซื้อ จนเหตุการณ์ยืดเยื้อนานนับเดือน เกษตรกรก็ยังไม่ได้เงิน
นายชาตรี เพชรแก้ว กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ ตนเองจะเดินหน้าเข้ายื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช ด้านคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งถือเป็นหลักการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชน ที่ควรจะได้รับการช่วยเหลือ แต่กลับเป็นผู้สร้างปัญหาภาระเพิ่มซ้ำเติมประชาชน อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กับกลุ่มพี่น้องเกษตรกร คนจน ๆ ที่หาเช้ากินเช้า รอคอยความหวังที่มีเพียงน้อยนิด สุดท้ายได้มาด้วยความพยายามของตนเอง
ทั้งนี้นายเอกรัฐ สุทธิชล ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรหัวไทร จำกัด ถือโอกาสชี้แจงต่อสื่อมวลชน ในฐานะเจ้าของสถานที่ว่า จากข่าวที่ออกไปค่อนข้างสร้างความสับสน ทำให้เกษตรกรและประชาชนเข้าใจผิดว่า ทางสหกรณ์มีส่วนรู้เห็น ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสหกรณ์ฯ เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกให้ใช้สถานที่ในขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่ต้น จนถึงวันนี้ เท่านั้น ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายเงินล่าช้า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ :
