นครศรีธรรมราช : หวิดเกิดการวางมวย ระหว่างแม่ค้ารับซื้อพริกเขียวมันกับเกษตรกร หลังรีบเข้าเจรจาจ่ายเงินค่าพริกที่ซื้อไป แต่ไม่ยอมจ่ายเงิน ยืดเวลานานนับเดือน ก่อนรู้ตัว รีบวิ่งแจ้นหาเงินมาเคลียร์ หวั่น ถูกดำเนินคดี ขณะผู้เสียหายเตรียมแจ้งความเอาผิด
วันที่ 9 มิถุนายน 26564 ภาพเหตุการณ์ต่อหน้า พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวไทร พร้อมด้วย ตำรวจ สภ.หัวไทร, นายเอกรัฐ สุทธิชล ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรหัวไทร จำกัด เจ้าของสถานที่ และสื่อมวลชน รวมถึงกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวมันในพื้นที่ (ผู้เสียหาย) หลายราย ที่นัดรวมตัวกันอีกครั้งในวันนี้ ที่สหกรณ์การเกษตรหัวไทร จำกัด ต.แหลม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เพื่อต้องการเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับพ่อค้า-แม่ค้าเกือบ 20 คน ที่เข้ามาตั้งจุดรับซื้อพริก พร้อมด้วยบุคคลต้นเรื่อง คือ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จ.นครศรีธรรมราช ผู้ดำเนินการเรื่องการซื้อขายพริกระหว่างผู้รับซื้อกับเกษตรกร ส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้น เนื่องจากเกษตรกรกว่า 100 รายไม่ได้รับเงิน รวมค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ที่กลุ่มผู้เสียหายได้ติดตามทวงถามมาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงปฏิเสธความรับผิดชอบ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้้
ขณะที่กลุ่มเกษตรกรผู้เสียหายกว่า 30 คน กำลังรอเงินค่าพริกจาก น.ส.วรุณรัตน์ (ทา) กลับแก้ว แม่ค้าที่นำเงินค่าพริกมาจ่ายให้อยู่อย่างใจจดใจจ่อ ส่งผลให้แต่ละคนต่างพากันดีอกดีใจ มีสีหน้าเบิกบานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และไม่ต้องเดินทางไปแจ้งความให้เสียเวลาอีก
ทันใดนั้น ทุกคนก็ต้องพากันตื่นตกใจ กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นต่อหน้าทุกคน โดยเฉพาะตำรวจที่ยืนดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่ เมื่อ น.ส.วรุณรัตน์ กำลังนั่งเคลียร์บิลจ่ายเงินให้แก่ผู้เสียหายที่ยืนรออยู่ เกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงกับผู้เสียหายหญิงรายหนึ่ง ขณะรอรับเงินค่าพริกที่ขายไปกว่า 7 พันบาท พร้อมกับคนอื่น ๆ ด้วยความร้อนใจ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
ทั้งคู่ได้ปะทะคารมกันอย่างดุเดือด ต่างคนต่างแสดงอาการไม่พอใจ หลังใช้วาจาโต้เถียงกันด้วยถ้อยคำรุนแรงและหยาบคายนานกว่า 20 นาที จนเหตุการณ์เริ่มจะบานปลาย เมื่อมีคำพูดลักษณะท้าทายจะใช้ความรุนแรงต่อกัน ทั้ง ๆ ที่มีตำรวจยืนดูและความสงบเรียบร้อยอยู่ รวมถึงผู้สื่อข่าวที่กำลังบันทึกภาพอยู่เช่นกัน โดยที่ทั้งคู่ไม่มีความรู้สึกเกรงอกเกรงใจหรืออับอาบขายหน้าในการกระทำต่อหน้าต่อตาผู้คนจำนวนมาก
ผู้อยู่ในเหตุการณ์เห็นว่าทั้งคู่ไม่มีท่าทีจะลดอารมณ์ลง และหากปล่อยไว้อาจจะถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตีกัน จึงพยายามช่วยพูดคุยระงับอารมณ์ความฉุนเฉียเพื่อยุติปัญหา จนเหตุการณ์ค่อย ๆ คลี่คลายและจบลง โดยต่างฝ่ายต่างยุติการปะทะคารมและถอยห่างออกจากกัน ทำให้ไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น ท้ายที่สุด การจ่ายเงินค่าพริกก็ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น ท่ามกลางการดูแลความสงบเรียบร้อยของตำรวจเหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้น หลังจากกลุ่มเกษตรกรที่เป็นผู้เสียหาย นำโดย นายชาตรี เพชรแก้ว ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ตัวแทนเข้ามาเดินเรื่องช่วยทวงเงินคืนและคืนเป็นธรรมให้แก่เกษตรกรที่พึงจะได้รับ ภายหลังพ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามารับซื้อในนามของ ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรค ดำเนินการแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวลุ่มน้ำ ที่ปลูกพริกเขียวมัน เนื่องจากประสบปัญหาไม่มีตลาดรองรับผลผลิต โดยกำหนดราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 14 บาท ตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับเกษตรกร รวมผลผลิตที่รับซื้อไปกว่า 60 ตัน แต่เกษตรกรทุกรายกลับไม่ได้รับเงิน กระทั่งเกิดการรวมกลุ่มผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบและช่วยแก้ไขปัญหา หลังถูกปฏิเสธความรับผิดชอบจากผู้ซื้อและบุคคลต้นเรื่องมาโดยตลอด แต่ความหวังที่จะได้รับเงินค่อย ๆ หายไป หลังถูกโยงไปเป็นเรื่องการเมือง
เกษตรกรผู้เสียหายร่วม 30 คน จึงนัดรวมตัวกันในวันนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมจะเข้าแจ้งความเอาผิดกับ ส.ส.คนต้นเรื่อง ที่ร่วมกับพวก เบี้ยวเงินเกษตรกรไปนานนับเดือน กระทั่งตัวแทนได้รับการติดต่อจากแม่ค้า คือ น.ส.วรุณรัตน์ จะขอเข้าเคลียร์เงิน เกษตรกรจึงชะลอการเข้าแจ้งความเพื่อดูทีท่าไปก่อน
ต่อมา ในช่วงบ่าย น.ส.วรุณรัตน์ กลับแก้ว แม่ค้าที่ติดต่อขอเคลียร์เงิน ได้เดินทางมาที่สหกรณ์ฯ เพื่อโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้เสียหายที่มารอรับอยู่ โดยมี พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.หัวไทร พร้อมตำรวจหลายนาย ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วย นายเอกรัฐ สุทธิชล ผู้จัดการสหกรณ์ฯ และสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม การเคลียร์ยอดเงินให้แก่เกษตรกรในวันนี้ยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากเงินมีไม่พอจ่าย ซึ่งยังคงมีเกษตรกรรายอื่น ๆ ที่ไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ ยังไม่ได้รับเงิน เนื่องจากถอดใจ เพราะหมดหวังว่าจะได้เงินไปแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมต่อสู้เรียกร้องด้วยกันกับผู้เสียหายรายอื่น ๆ
ด้านนายชาตรี เพชรแก้ว ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ในฐานะตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า วันนี้ผู้ประกอบการได้เข้ามาแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการโอนจ่ายเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกร แต่ยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากเตรียมเงินมาเพียงแค่ 2 แสนบาท จ่ายได้ไม่ถึง 30 รายจากทั้งหมดกว่า 100 ราย ความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
และต่อมา น.ส.วรุณรัตน์ ได้ติดต่อพูดคุยไปยัง นายนรินทร์ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นนายทุนใหญ่ที่เข้ามารับซื้อพริก โดยแจ้งปัญหาให้ทราบว่าเงินไม่เพียงพอจ่าย กระทั่ง มาทราบข้อมูลภายหลังว่า นายนรินทร์ ได้เดินทางมายังสหกรณ์ฯ พร้อมนำหลักทรัพย์โฉนดที่ดิน นส.3 ยื่นค้ำประกันขอกู้เงินจากผู้ใหญ่คนหนึ่งในเทศบาลอำเภอหัวไทร โดยมีเจ้าของสถานที่ร่วมรับฟังและเป็นสักขีพยาน พร้อมนำเงินอีกส่วนหนึ่งที่ได้มา จ่ายให้ผู้เสียหายเพิ่มอีกประมาณ 3 แสนบาท และขอผัดผ่อนส่วนที่เหลืออีกกว่า 6 แสนบาท เพื่อจ่ายในวันที่ 10 มิ.ย.64
โดยสรุปยอดเงินที่ผู้ประกอบการเข้าเคลียร์ให้เกษตรกรผู้เสียหายไปแล้วในวันนี้ กว่า 5 แสนบาท และจ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้อีกกว่า 8 แสนบาท รวมกว่า 1 แสน 3 หมื่นบาท จึงยังคงเหลือยอดเงินอยู่อีกกว่า 6 แสนบาท ที่จะต้องนำมาจ่ายให้เกษตรกรผู้เสียหายทั้งหมด ให้แล้วเสร็จตามที่ขอผัดผ่อนไว้
“ถือเป็นความโชคดีอย่างยิ่งของกลุ่มพี่น้องเกษตรกรผู้เสียหายทั้งหมด ที่ได้รับเงินกันในวันนี้ หลังต่อสู้เรียกร้องมาตลอด 1 เดือนเต็ม ทำให้ผู้เสียหายบางรายถอดใจไม่ขอรับเงิน แต่ด้วยความยากลำบากของกลุ่มเกษตรกรผู้เสียหายอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมใจผนึกกำลังกันร่วมเรียกร้องความเป็นธรรม ทวงคืนสิทธิ์ความชอบธรรม อย่างไม่คิดที่จะยอมสูญเสียเงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรง ความเหน็ดเหนื่อยในอาชีพสุจริตของเกษตรทุกคน“
อย่างไรก็ตามจะยังคงเดินหน้าเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โดยจะยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ของ จ.นครศรีธรรมราช ในด้านคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งถือเป็นหลักสำคัญในการทำหน้าที่ฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชน ในการแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อน แต่กลับเป็นผู้สร้างปัญหาเพิ่มภาระและซ้ำเติมประชาชน อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กับกลุ่มพี่น้องเกษตรกร คนจน ๆ ที่หาเช้ากินเช้า รอคอยเพียงความหวังที่มีอย่างน้อยนิด แต่สุดท้ายก็ได้มาด้วยความพยายามของตัวเกษตรกรเอง” นายชาตรี กล่าวในที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวเนื่องก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: