นครศรีธรรมราช : พบหลักฐานชิ้นสำคัญ ‘อาวุธปืนไทยประดิษฐ์’ คาดเป็นของเพื่อนรุ่นน้องที่หลบหนี เหตุ ปืนลั่นใส่อดีตพลทหาร ตกกระจายในพงหญ้าริมถนนทางเข้าบ้านจัดงานศพ จนท.ชุดสืบสวนเข้าตรวจ-เก็บหลักฐานทันที ขณะญาติยืนยัน ตัวการสำคัญนำมาทิ้ง หลังเดินป้วนเปี้ยนกลางดึกหลายรอบ
วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ความคืบหน้า คดีปืนลั่นใส่ นายสิทธิชัย (สีแก้ว) แป้นจันทร์ อายุ 34 ปี อดีตพลทหารต่อสู้อากาศยาน (ทร.) ที่บ้านเลขที่ 178 ม.5 บ้านตีนนา ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อคืนนี้ (7 กรกฎาคม 2564) มีพิธีสวดอภิธรรมศพ เป็นคืนที่สอง ซึ่งเป็นคืนสุดท้าย ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันนี้ (8 กรกฎาคม 2564)
ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างต่อเนื่อง หลังพบความผิดปกติต่อเหตุการตายของนายสิทธิชัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมูลเหตุสำคัญเรื่องความขัดแย้งระหว่างผู้ตายกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เรื่องปัญหาที่ดิน และก่อให้เกิดความขัดแย้งกันมานานหลายปี อาจนำไปสู่การวางแผนสังหารผู้ตาย ซึ่งจากเดิมเป็นเหตุปืนลั่นใส่ ระหว่างเพื่อนรุ่นน้องกับนายสิทธิชัย จนกระทั่งข้อเท็จจริงต่าง ๆ ค่อย ๆ ทยอยออกมา ประกอบกับการให้สัมภาษณ์ของญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต ที่ค่อนข้างมั่นใจและพุ่งเป้าไปถึงบุคคลดังกล่าว ที่อาจอยู่เบื้องหลัง แม้วันเกิดเหตุจะมีการรับรองจากผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งว่า ผู้ใหญ่บ้านคนนี้นั่งอยู่กับตนเองที่บ้าน และคำยืนยันจากพยานปากเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้ตายว่า อาวุธปืนที่ผู้ตายและเพื่อนรุ่นน้องนำมาเล่นกันนั้น ไม่ใช่ปืนลูกซองที่สอดคล้องกันกับกระสุนที่ปลิดชีพนายสิทธิชัย อย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 17.06 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวพร้อมผู้ช่วย ได้เดินทางลงไปในพื้นที่จัดงานศพนายสิทธิชัย โดยขณะกำลังเดินเข้างาน บริเวณริมถนนฝั่งตรงข้ามทางเข้างาน ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 100 เมตร ผู้ช่วยผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นวัตถุคล้ายอาวุธปืนตกอยู่ในพงหญ้า จึงแจ้งให้ผู้สื่อข่าวดู จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของอาวุธปืน ตกกระจายห่างกันเล็กน้อย ประกอบด้วย ลำตัวปืนสีดำ สไลด์สีเทา และซองหนังสีดำ ตกอยู่ใกล้กัน โดยมีหญ้าที่ผ่านการตัดปกคลุมอยู่เล็กน้อย แต่ยังเห็นได้ชัด
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
เมื่อสังเกตอย่างละเอียด พบว่าเป็นปืนพลาสติกหรือปืนอัดลม แต่มีการดัดแปลงด้วยการใช้เส้นลวดทองแดง และวัสดุต่าง ๆ มาต่อเชื่อมให้คล้ายเป็นอาวุธปืน จึงโทรศัพท์แจ้ง พ.ต.ท.อาคม จอนนุ้ย รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ทราบ ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี 4 นาย ก็เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ
กระทั่งเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นชิ้นส่วนที่เป็นตัวลำกล้องสแตนเลส อยู่ในพงหญ้าในด้านรั้วลวดหนาม อีก 1 ชิ้น จึงเก็บรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดนำไปเป็นหลักฐานและเพื่อพิสูจน์ทราบว่า จะเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี หลังเจ้าหน้าที่ออกติดตามหาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และการสอบสวนเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์และหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ พร้อมรายละเอียดของอาวุธปืน ว่าสอดคล้องกันหรือไม่อย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า ได้ลงไปสอบสวนวัยรุ่นคนดังกล่าวจริง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนชิ้นส่วนปืนที่พบจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ต้องนำกลับไปพิสูจน์ก่อน พร้อมให้ความมั่นใจว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าอาจจะเกี่ยวเนื่องกับการตายของนายสิทธิชัย อยู่แล้ว 1 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลอีกด้านว่า อาวุธปืนที่ชายวัยรุ่นนำมานั้น มีลักษณะคล้ายกับชิ้นส่วนอาวุธปืนที่พบในพงหญ้า ประกอบกับ คำยืนยันหลังผู้สื่อข่าวนำภาพชิ้นส่วนที่พบ วานนี้ ให้พยานที่อยู่ในเหตุการณ์อีกคนดู ได้รับคำยืนยันอย่างชัดเจนว่า เป็นอาวุธปืนที่พบเห็นในบ้านที่เกิดเหตุ เนื่องจากมีเข็มขัดรัดเคเบิลไท (Cable Tie) สีเขียวรัดอยู่ที่บริเวณปลายกระบอกปืน พยานยังบอกว่า ได้ยินผู้ตายคุยกับวัยรุ่นหนุ่มคนนี้ในลักษณะว่า “ปืนยังใช้ไม่ได้” ซึ่งสอดคล้องกับที่กลุ่มเพื่อนของวัยรุ่นคนดังกล่าว ยืนยันตามที่เคยเห็นว่า ปืนของชายวัยรุ่นนั้น เป็นเพียงแค่ปืนอัดลม ที่ได้ดัดแปลงขึ้นให้เป็นปืนขนาด .22 โดยการนำส่วนประกอบต่าง ๆ มาเชื่อมต่อกัน แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้จริง
ต่อมา นายไก่ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิต ได้ให้สัมภาษณ์ หลังทราบเรื่องการพบชิ้นส่วนปืน ที่หน้าบ้านงานว่า จะต้องเกี่ยวข้องกับผู้นำชุมชนรายนี้ที่ไม่ขอเอ่ยนาม อย่างแน่นอน เนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เห็นมาเดินวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุด้วยท่าทางมีพิรุธคล้ายจะทำอะไรบางอย่าง กระทั่งรู้สึกตัวว่ามีคนจ้องมองอยู่ จึงเดินไปหยุดอยู่บริเวณจุดล้างถ้วยชาม ที่อยู่ด้านหลังบ้านงานศพ ก่อนเดินไปยังอีกจุดที่อยู่ใกล้กับจุดที่พบชิ้นส่วนปืน โดยผู้ใหญ่บ้านเองก็เห็นว่ามีคนอยู่ จึงทำทียืนรูดซิปกางเกงปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะออกมา แล้วเดินกลับไปในเวลาประมาณเที่ยงคืน
นายไก่ (นามสมมุติ) เปิดเผยต่อว่า ในวันรุ่งขึ้น (7 กรกฎาคม) ช่วงเวลากลางวัน ผู้นำชุมชนคนนี้ได้มาตัดหญ้าตลอดแนวริมถนนทางเข้างาน อ้างว่าเพื่อความสะดวกต่อการจอดรถของแขกที่มาในงาน ซึ่งร้อยวันพันปีไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน สุดท้าย ได้มาทราบว่าพบชิ้นส่วนปืนที่อาจเกี่ยวข้องกับคดี แม้ไม่เห็นช่วงที่มีผู้นำชิ้นส่วนปืนมาทิ้ง แต่ก็มั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของบุคคลคนนี้ที่นำมาทิ้งอย่างแน่นอน และมีเจตนาจงใจโดยการมาตัดหญ้าให้เห็นชิ้นส่วนที่ถูกคมมีดจากเครื่องตัดหญ้า แยกออกจากกัน เพื่อให้ผู้อื่นได้พบเห็น และเป็นไปไม่ได้ที่คนมาตัดหญ้าจะไม่เห็น
ขณะที่ นางเรวดี แป้นจันทร์ อายุ 38 ปี พี่สะใภ้ของผู้ตาย พูดถึงเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ตนเองพร้อมลูกอีก 2 คน อยู่ภายในบ้าน ได้ยินเสียงนายสิทธิชัย ผู้ตาย ตะโกนเรียกชื่อตนเอง เหมือนอย่างทุกครั้งก่อนออกไปกรีดยาง นอกจากนี้ เมื่อคนงาน แม่ก็มาเล่าให้ฟังว่า ได้ยินเสียงก๊อกแก๊ก คล้ายมีคนมากินข้าว ซึ่งเป็นพฤติกรรมประจำของนายสิทธิชัย จึงเชื่อว่านายสิทธิชัย ยังคงวนเวียนอยู่แถวนี้ เพราะยังห่วงใยแม่ ที่รักมาก รวมถึงไปหลาน ๆ ที่ทุกวันนายสิทธิชัยมักซื้อนมมาฝากหลังได้เงินจากการขายขี้ยาง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ :
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: