นครศรีธรรมราช : นายอำเภอบางขัน สั่งปิด! โรงงานไม้ยางพารา หลังพบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นแรงงานพม่า กระจายสู่ชุมชนเป็นวงกว้าง ยากควบคุม มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมากถึง 581 คน พร้อมเร่งทำโรงพยาบาลสนามรองรับ
วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 สถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกเมษายน จังหวัดนครศรีธรรมราช พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่มากถึง 259 คน เป็นผู้ป่วยที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 39 และเป็นผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่ จำนวน 220 คน
อยู่ในอำเภอบางขันมากที่สุด 166 คน, ท่าศาลา 14 คน, เมือง 11 คน, ทุ่งสง 7 คน, พิปูน 5 คน, ร่อนพิบูลย์ 4 คน, พรหมคีรี 4 คน, ทุ่งใหญ่ 2 คน, จุฬาภรณ์ สิชล ชะอวด ลานสกา หัวไทร ปากพนัง และถ้ำพรรณรา อำเภอละ 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าสอบสวนโรคและกักตัวกลุ่มเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
ส่งผลให้ขณะนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 2,950 คน อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,080 คน (มาจาก กทม.และปริมณฑล 488 คน) รักษาหายกลับบ้านได้เพิ่ม 40 คน สะสม 1,853 คน เสียชีวิตเท่าเดิม 28 คน
ทั้งนี้ คลัสเตอร์ใหม่ เป็นกลุ่ม ‘โรงงานไม้ยางพาราปากแพรก’ (บริษัท เอส แอนด์ บี วู้ด จำกัด) ตั้งอยู่เลขที่ 272 ม.1 ต.บางขัน อ.บางขัน มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ส่งผลให้ นายประภาส ขุนพิทักษ์ นายอำเภอบางขัน ต้องประกาศปิดโรงงานชั่วคราว ระบุว่า พบคนงานโรงงานดังกล่าว 221 คน มีการกระจายเชื้อสู่ชุมชนเป็นวงกว้าง ยากต่อการควบคุม มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมากถึง 581 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 1,248 คน ศปก. อ.บางขัน มีมติเห็นควรปิดโรงงานดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่กระจายของโรค ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม – 7 สิงหาคม 2564
คลัสเตอร์นี้แดงขึ้น เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 โดยแรงงานพม่า 2 คน หลบหนีออกมาซื้อของนอกโรงงานและเกิดอุบัติเหตุ เข้ารักษาที่ รพ.บางขัน พบว่าทั้ง 2 คนมีเชื้อเป็นบวก จึงเข้าสอบสวนโรคในโรงงาน ตั้งแต่ 20 กรกฎาคม 2564 พบแรงงานที่อยู่ภายในโรงงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานพม่า เจ้าของสถานประกอบการสั่งห้ามออกนอกสถานที่ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด แต่มีการละเมิด จึงต้องสั่งห้ามเข้าออกโดยเด็ดขาด เพื่อตรวจเชิงรุก พบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นตามลำดับ จนนำไปสู่การปิดโรงงาน
ผู้นำชุมชนในพื้นที่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า โรงงานไม้ยางพาราแห่งนี้ เป็นโรงงานของนักการเมืองคนหนึ่งใน จ.ตรัง ได้เคลื่อนย้ายแรงงานพม่าจำนวนมากจากโรงงานในจังหวัดตรัง อพยพมาเก็บไว้ที่โรงงานใน อ.บางขัน ช่วงโควิด-19 ระบาดอย่างหนักในจังหวัดตรัง โดยไม่ได้บอกกล่าวเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จนทำให้เกิดโรคระบาดอย่างหนักในชุมชน โลกโซเชียลพากันตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน ทางชุมชนได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เนื่องจากเชื้อโควิด-19 กระจายไปสู่หมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านติดเชื้อจำนวนมาก พร้อมวิตกว่ายังมีโรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง ที่มีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก อาจจะเกิดการแพร่ระบาดเหมือนที่ อ.บางขัน ทำให้ชาวบางขันต้องอยู่กับบ้านไม่เดินทางออกออกไปไหนหรือติดต่อใคร
ขณะที่ นายเสริม เขียวเข็ม กำนัน ต.ดินแดง อ.ลำทับ จ.กระบี่ ถึงขั้นวางมาตรการ 8 ข้อ ห้ามเดินทางและปิดหมู่บ้าน ห้ามติดต่อกับชาวบ้านใน ต.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช โดยเด็ดขาด และห้ามคนจาก อ.บางขัน เข้าพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านใน ต.ดินแดง เนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกัน และทำมาหากินร่วมกัน หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
ส่วนใน อ.ทุ่งสง พบคลัสเตอร์เดิม โรงงานทุ่งสงพาราวู้ด และยังมีคลัสเตอร์ล้งมังคุด คลัสเตอร์พนักงานขับรถส่งสินค้า ที่เป็นตัวนำเชื้อแพร่กระจายไปในหลายอำเภอ
เร่งสร้าง รพ.สนาม รองรับผู้ป่วย ย้ำ ประชาชนไม่ประมาท มีวินัย และมีน้ำใจ
นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ อ.บางขัน เพื่อกำกับและติดตามความก้าวหน้า การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง ที่บริเวณศาลาประชาคม อ.บางขัน และที่โรงเรียนสังวาลย์วิท 7 ที่บ้านเคียมงาม ต.บ้านลำนาว เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว โดย สสจ.นครศรีธรรมราช ระบุว่า ยอดผู้ป่วยจากคลัสเตอร์โรงงานไม้ยางพารา 2 แห่ง ใน อ.บางขัน มี 221 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานคนไทย 89 คน และแรงงานพม่า 132 คน
นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เตรียมเปิดโรงพยาบาลสนามในทุกอำเภอ เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยสีเขียวหรือผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการไม่มาก ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เปิดอาคาร ภายในสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ อ.ร่อนพิบูลย์ เพื่อจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม ขนาด 500 เตียงด้วย ซึ่งจะส่งผลให้มีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 เตียง พร้อมทั้งมีการสนับสนุนและจัดหาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรอัดเม็ด สำหรับผู้ป่วยสีเขียวและกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ด้วย
นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการเข้ม ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการให้ทุกอำเภอทุกพื้นที่ เร่งเตรียมความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในส่วนการตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกตำบล, การจัดตั้งศูนย์รับตรวจเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19 ฟรีทุกตำบล, ตั้งศูนย์ช่วยเหลือและสงเคราะห์ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกตำบล รวมทั้งการตรวจจับปรับจริง ผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการ DMHTT และฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรค และการบังคับใช้กฎหมายผู้ฝ่าฝืนที่เป็นโรงงาน หรือสถานประกอบการที่มีแรงงาน 20 คนขึ้นไปด้วย พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือจากประชาชน ในการไม่ประมาท มีวินัยต่อตัวเอง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคม รวมทั้งการมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
