นครศรีธรรมราช : ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ยังพุ่ง 97 คน ผู้นำท้องถิ่นใน อ.บางขัน ร้องปิดโรงงานยางพารา 30 วัน หลังคำสั่งอำเภอไม่ศักดิ์สิทธิ์ โรงงานยังละเมิดเปิดโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาว
วันที่ 28 กรกฏาคม 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 (ระลอกเมษายน) จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 97 คน เป็นผู้ป่วยที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 51 คน อีก 46 คน เป็นผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่เอง โดยเป็นผู้ป่วยในอำเภอท่าศาลา 16 คน, เมือง 12 คน, ลานสกา 5 คน, หัวไทร 4 คน, ทุ่งสง 3 คน, พระพรหม 2 คน, ร่อนพิบูลย์ 2 คน, ปากพนังและสิชล อำเภอละ 1 คน เจ้าหน้าที่ได้เข้าสอบสวนโรคและกักตัวกลุ่มเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ขณะนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม (ระลอกเมษายน) 3,258 คน อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1,289 คน (มาจาก กทม.และปริมณฑล 619 คน ในจังหวัด 670 คน) รักษาหายกลับบ้านได้เพิ่ม 57 คน สะสม 2,010 คน และเสียชีวิต 30 คน
อย่างไรก็ตาม แม้มีคลัสเตอร์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่โรงงานเอส แอนด์ บี วู้ด จำกัด หมู่ 1 ต.บางขัน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้วมากถึง 221 คน ส่วนใหญ่เป็นคนงานภายในโรงงานดังกล่าว ประกอบด้วยแรงงานคนไทย 89 คน และแรงงานชาวพม่า 132 คน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมากถึง 581 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำอีก 1,248 คน และมีแนวโน้มที่จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน ของวานนี้และวันนี้ กลับไม่มีรายงานจาก อ.บางขัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใจ
ร้องปิดโรงงานยางพารา 30 วัน พร้อมดำเนินคดี
ที่บริเวณด้านหน้าอาคารที่ว่าการอำเภอบางขัน เมื่อ 27 ก.ค.64 นายกฤษกร แสงเงิน ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อ.บางขัน นำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ ยื่นหนังสือถึง นายประภาส ขุนพิทักษ์ นายอำเภอบางขัน และผู้กำกับ สภ.บางขัน เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการสั่งปิดโรงงานเป็นเวลา 30 วัน พร้อมดำเนินคดีกับโรงงานดังกล่าว เนื่องจากพบว่าโรงงานยังคงลักลอบเปิดกิจการตามปกติ แม้ว่าทางอำเภอมีคำสั่งให้ปิดกิจการชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. – 7 ส.ค.64 แล้วก็ตาม แต่โรงงานยังคงลักลอบเปิดดำเนินการเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังยื่นข้อเรียกร้องให้โรงงานออกมาแสดงความรับผิดชอบ พร้อมกับเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ หลังจากโรงงานเป็นต้นตอการแพร่ระบาดไวรัสโควิด–19
นายกฤษกร กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ อ.บางขันถือว่าหนักมาก เกิดจากการปกปิดข้อมูลทำให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนต่างเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่โรงงานเท่านั้น ชาวบ้านและครอบครัวยังได้รับผลกระทบทั้งหมดเป็นวงกว้าง จึงเดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น
สำหรับหนังสือเรียกร้องที่ยื่นให้กับทั้งทาง อ.บางขัน และผู้ว่าราชการจังหวัด มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.เสนอให้ปิดโรงไม้ยางพาราบริษัท S&B WOOD จำกัด ที่ตั้งอยู่ ม.1 บ้านปากแพรก ต.บางขัน อ.บางขัน จว.นครศรีธรรมราช เป็นเวลา 30 วัน
2.คัดค้านคำสั่งอำเภอบางขัน ที่ให้ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านไปอยู่เวร หน้าโรงงาน
3.ให้จัดทำจุดพักคอย ที่ รร.ตำรวจตระเวนชายแดนบ้านไร่ยาว,รร.ตำรวจตระเวนชายแดนบ้านยูงงาม,รร.โสตฯ
4.ยื่นหนังสือต่อ ผกก.สภ.บางขัน แจ้งความเอาผิด เจ้าของโรงงานไม้ยาง ที่ปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดของโรคโควิด
5.ทักท้วงการปฏิบัติงานของนายอำเภอ ไม่เหมาะสม ไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้
6.ให้สาธารณสุข ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในโรงงาน ตลอดจนลงพื้นที่ชุมชน
ทั้งนี้ สาเหตุที่ชาวบางขันไม่พอใจเนื่องจากคนงานแรงงานต่างด้าว ที่ถูกลักลอบขนมาจากโรงงานยาง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ติดโควิด เมื่อมาอยู่รวมในโรงงานบางขันเชื้อจึงแพร่กระจาย และในขณะเดียวกัน เชื้อได้แพร่กระจายออกมาสู่ชุมชน ทำให้ชาวบ้านต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วันหลายพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำการตรวจเชิงรุกใน ต.บางขัน จำนวน 18 หมู่บ้าน และวันที่ 27 ก.ค. ตรวจ ต.ลำนาวทั้งตำบล
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ระบุ เหตุเกิดจากแรงงานพม่า 4 คน ที่ทาง สสอ.ตรวจพบว่า มีเชื้อเป็นบวก แต่โรงงานยังนำตัวกลับไปที่โรงงาน โดยไม่รักษา แล้วพาไปตรวจที่ห้องแลปเอกชนไม่พบเชื้อ จึงให้ทำงานต่อในโรงงาน จนแพร่ระบาดทั้งโรงงาน กระทั่งเดือดร้อนกันทั้งอำเภอบางขัน แต่ อ.บางขัน กลับไม่มียอดผู้ป่วยโควิด-19 มา 2 วันแล้ว ทั้ง ๆ ที่ในพื้นที่พบผู้ป่วยทั้งวัน จึงขอเรียกร้องอย่าปกปิดข้อมูลอีกเลย ช่วยกันรักษาจะดีกว่า
เปิดโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง รองรับผู้ป่วยบางขัน พร้อมเลื่อนเปิดเทอมเป็น 24 ส.ค.64
นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จะเปิดโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง คือ ที่บริเวณศาลาประชาคม อ.บางขัน และที่โรงเรียนสังวาลย์วิท 7 ที่บ้านเคียมงาม ต.บ้านลำนาว ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการ จ.นครศรีธรรมราช สั่งการให้ทุกอำเภอทุกพื้นที่ เร่งเตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วยและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในส่วนการตั้งศูนย์พักคอย หรือ Community Isolation ในทุกตำบล การจัดตั้งศูนย์รับตรวจเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19 ฟรีทุกตำบล ตั้งศูนย์ช่วยเหลือและสงเคราะห์ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกตำบล รวมทั้งการตรวจจับปรับจริง ผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการ DMHTT และฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรค โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ฝ่าฝืนที่เป็นโรงงานหรือสถานประกอบการที่มีแรงงาน 20 คนขึ้นไปด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.นครศรีธรรมราช มีมติเลื่อนการเปิดการเรียนการสอน จากวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 เป็นวันที่ 24 สิงหาคม 2564 หรือจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคทั้งในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ ยังน่าห่วง มีตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
