นครศรีธรรมราช : กรรมการสอบวินัยแพทย์หญิง รพ.นบพิตำ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้ญาติ เร่งสรุปสำนวนเสนอเอาผิด ด้านพ่อเมืองคอน สั่งปิดสำนักงานจังหวัด หลังพบเจ้าหน้าที่ติดโควิด ส่วนยอดติดเชื้อใหม่เพิ่ม 168 ราย
วันที่ 21 สิงหาคม 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกเมษายน จ.นครศรีธรรมราช พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 168 ราย เป็นการติดเชื้อในจังหวัด 155 ราย และมาจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 13 ราย ยอดติดเชื้อสะสม 6,354 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,640 ราย (มาจาก กทม.และปริมณฑล 595 ราย) รักษาหายเพิ่ม 177 คน สะสม 4,988 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 50 ราย
ทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ ส่วนใหญ่มาจากคลัสเตอร์ล้งมังคุด ตลาดสดคูขวาง และกลุ่มเฝ้าระวังเสี่ยงสูงที่ปรากฏอาการ
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ตามที่พบผู้ติดเชื้อที่สำนักงานจังหวัด ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง จึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม และสอบสวนโรค ด้วยการปิดสำนักงานจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารชั้น 2 ฝั่งทิศใต้ ระหว่างวันที่ 20-26 สิงหาคม 2564 สำหรับส่วนราชการอื่นที่มีที่ตั้งอยู่ ณ อาคารศาลากลาง ยังคงเปิดทำการตามปกติ ประชาชนสามารถไปติดต่อราชการได้ แต่ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตนตามมาตรการ D-H-M-T-T-A อย่างเคร่งครัด และใช้วิถีนิวนอร์มอล ลดการเดินทาง ลดความเสี่ยง นำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ พร้อมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อศาลากลางทุกพื้นที่
เร่งสรุปสำนวนเสนอผู้ว่าฯ เอาผิด แพทย์สาวฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้พี่สาว
ความคืบหน้า กรณีแพทย์หญิงโรงพยาบาลนบพิตำ ให้เจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ก้นขวดฉีดให้พี่สาว ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยนั้น คณะกรรมการสอบสวนวินัย ประกอบด้วย รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายนิติการ และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้สอบสวนแพทย์หญิงคนดังกล่าว รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างสรุปสำนวนและกำหนดแนวทางการดำเนินการทางวินัย เพื่อจะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้พิจารณาโทษตามขั้นตอนระเบียบของทางราชการต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนประเด็นที่สังคมสนใจ ว่าวัคซีนที่ฉีดนั้นเป็นการเก็บขวดจากถังขยะจริงหรือไม่นั้น นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ชี้แจงว่า ได้จัดซื้อเข็มและหลอดเพื่อใช้วัคซีนให้ครบตามปริมาณและประหยัด โดยใช้เข็มดึงยาที่จะทำให้มีพื้นที่วัคซีนติดค้างน้อยที่สุด เท่ากับว่าจะมีวัคซีนเหลืออยู่ในขวดมากขึ้น ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ปกติจะได้ 6 โดส แต่เราทำให้เพิ่มขึ้นได้เป็น 7 โดส การอ้างว่าโดสที่ 7 เป็นโดสที่ทิ้งจึงไม่ใช่แน่นอน แต่เป็นความตั้งใจ และเป็นไปในลักษณะเดียวกับแอสตร้าเซนเนก้า ที่ปกติฉีดได้ 10 โดส แต่เราสามารถดึงได้ถึง 11 โดส ถือเป็นเรื่องปกติ
สำหรับกรณี รพ.สต.แห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง นำลูกชายไปฉีควัคซีนไฟเซอร์ โดยอ้างว่าเป็นบุคลากรด่านหน้า สสจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าเพิ่งได้ยิน แต่เท่าที่ทราบ ทางจังหวัดโดยผู้ว่าฯ สั่งกำชับแต่ละพื้นที่ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: