นครศรีธรรมราช : ชาวบ้าน ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี ร้องสื่อ หลังเดือดร้อนหนัก จากผลกระทบขยายอาชีพ ‘เผาถ่านขาย’ ของเพื่อนบ้าน สูดควันเข้าปอดทุกวันจนป่วย วอน หน่วยงานเกี่ยวข้องเห็นใจเข้าแก้ไขโดยด่วนผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เพื่อขอความช่วยเหลือและวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าแก้ไขปัญหา หลังเดือดร้อนอย่างหนักจากการประกอบอาชีพ ‘เผาถ่าน’ ขายของเพื่อนบ้านที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ กินพื้นที่ 2 หมู่บ้าน ทั้งหมู่ 1 และ หมู่ 8 ต.ทอนหงส์
ชาวบ้านหลายหลังคาเรือนที่เดือดร้อน ถูกรายล้อมไปด้วยบ้านที่ประกอบอาชีพดังกล่าว ต่างได้รับผลกระทบจากมลพิษที่เกิดจากควันไฟ และกลิ่นที่เกิดจากการเผาไหม้ของไม้ แผ่กระจายปกคลุมไปทั่วพื้นที่ กระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันของชาวบ้าน ไม่สามารถพักอาศัยอยู่ได้ ที่สำคัญส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจของแต่ละคน ภาพบรรยากาศที่ผู้เสียหายรายหนึ่งบันทึกไว้ พร้อมร้องขอความเห็นใจ ให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะต้องทนทุกข์ทรมานกับสภาพที่เป็นอยู่ หายใจสูดควันไฟเข้าไปในร่างกายทุกวันมานานแรมปี จนเกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ หายใจไม่ออก และเกิดอาการหอบหืด รวมถึงมีอาการแพ้คันตามร่างกาย ถึงขั้นผิวหนังเป็นตุ่มแผลพุพอง รวมถึงสภาพจิตใจที่ย่ำแย่
ในคลิป แสดงให้เห็นสภาพแวดล้อมถูกปกคลุมไปด้วยควันไฟที่เกิดจากการเผาไหม้ไม้ฟืนของเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบ กลุ่มควันลอยตัวฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง พร้อมระบุถึงอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้ง ‘แสบตา แสบจมูก หายใจลำบาก และเกิดอาการคันตามผิวหนัง’ ที่สำคัญ คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อระบบทางเดินหายใจเริ่มรุนแรงมากขึ้น จึงขอร้องอ้อนวอนขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่สามารถเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ได้ ให้เข้ามาแก้ไขอย่างเร่งด่วน
“ตนเองไม่รู้จะหวังพึ่งใครได้อีก เพราะก่อนนี้เคยแจ้งไปยังผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่แล้วหลายครั้ง ให้เข้าช่วยพูดคุยกับชาวบ้านที่เผาถ่าน เพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหาร่วมกัน อย่างน้อยกำหนดให้เผาเป็นเวลา แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะตัวผู้นำเองกลับมีความเกรงอกเกรงใจซึ่งกันและกัน แถมได้คำตอบมาเพียงประโยคเดียวว่า ‘ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ ทนอยู่ต่อไป’ ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบไม่กล้าที่จะออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือ จำใจต้องอยู่กันไปในสภาพแบบฝืนทน”ซึ่งตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ตนเองและครอบครัวต้องทนทุกข์ทรมานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้แบบปกติ เนื่องจากมีชาวบ้านหันมาประกอบอาชีพเผาถ่านกันมากขึ้น โดยมีการเผากันตลอด ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ส่วนมากจะเผากันในเวลากลางคืน ทำให้ไม่สามารถหลับนอนได้ สภาพร่างกายและจิตใจเริ่มแย่ลง จนรับไม่ไหว จึงตัดสินใจปิดบ้านหนีออกมาเช่าห้องพักในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเอาชีวิตรอด จนกว่าจะมีใครหรือหน่วยงานใดที่สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหานี้ได้ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรายหนึ่ง เล่าถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: