นครศรีธรรมราช : สาวเมืองคอน สุดงง! ขับรถสวนทางรถตัวเองขณะกำลังจะไปจ่ายเงิน หลังนำไปเปลี่ยนยาง ทราบอีกทีเมื่อถึงอู่ ว่า ‘รถถูกขโมย’ แจ้งความตามหา ตำรวจออกแกะรอยจากภาพวงจรปิด พบจอดนอนภายในวัด รวบได้ภายใน 12 ชม.
คลิปจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นชายวัยกลางคน ลักษณะผมเผ้ารกรุงรัง สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อแขนกุดสีเทา กำลังเดินด้อม ๆ มอง ๆ อยู่บริเวณข้างรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ ตอนเดียว สีบรอนซ์ ประตูสีดำ ทะเบียน ผฉ.1079 นครศรีธรรมราช ที่จอดอยู่หน้าอู่ซ่อมรถ ชื่อ ‘ตาเล็กการช่าง’ เลขที่ 133/2 ม.8 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช และมองซ้ายมองขวา ก่อนเปิดประตูขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับ แล้วจึงสตาร์ตเครื่อง ขับรถคันดังกล่าวออกไปจากอู่อย่างหน้าตาเฉย เสมือนเป็นเจ้าของรถ
ในคลิปยังเผยให้เห็นถึง หญิงคนหนึ่งเดินออกมาดูเหตุการณ์ ในลักษณะมึนงง ว่าใครขับรถของลูกค้าออกไป ซึ่งเหตุเกิดในเวลา 18.03 น. ของวันที่ 15 ม.ค.2565
หลังเกิดเหตุ เจ้าของอู่ คือ นายธนเดชา ระวังวงศ์ โทรศัพท์แจ้ง นายพิงพรรณ บุญเจริญ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เทศบาลตำบลพรหมโลก และเป็นเจ้าของบ้านที่มาเช่าเปิดเป็นอู่ซ่อมรถทราบ ก่อนแจ้งตำรวจ สภ.นบพิตำ เพื่อช่วยกันออกค้นหา
ซึ่ง ร.ต.อ.สันติ ชาตระกาญจน์ รอง สว.สส.สภ.นบพิตำ ร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.ปากลง อ.นบพิตำ ช่วยกันออกตระเวนค้นหารถและแกะรอยคนร้ายตลอดทั้งคืน ตามหลักฐานจากคลิปกล้องวงจรปิด จนในที่สุด เวลาประมาณ 06.00 น. พบรถต้องสงสัย ที่คาดว่าถูกขโมยไป จอดสงบนิ่งอยู่ภายในวัดกรุงนาง ต.กรุงชิง โดยมีคนร้ายนอนหลับอยู่ภายในรถคันดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมรถกระบะของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.นบพิตำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และตรวจหาสารเสพติด ผลปรากฏว่า พบสารเสพติดอยู่ในร่างกาย
จากการสอบสวนผู้ต้องหา คือ นายก้องเกียรติ เรืองนุ่น อายุ 48 ปี ภูมิลำเนา อ.เมืองนครศรีธรรมราช ในเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว ที่ขโมยมาจากเขตพื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช และขับขี่มาเรื่อย ๆ ตามเส้นทาง แล้วไปจอดทิ้งไว้ใน อ.นบพิตำ ก่อนเดินมาถึงอู่ และขโมยรถกระบะไปดังกล่าว โดยไม่ได้คิดอะไร
ต่อมา สภ.นบพิตำ แจ้งให้เจ้าของรถทราบ และให้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.พรหมคีรี ท้องที่เกิดเหตุ ซึ่ง น.ส.อรสา บุญนาค อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/7 ม.3 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ เจ้าของ พร้อมเจ้าของอู่ ได้ไปรับรถ และเข้าพบ ร.ต.อ.รักเกียรติ โชติศักดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.พรหมคีรี เพื่อให้ปากคำ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ใช้เวลากว่า 1 ชม.
น.ส.อรสา บุญนาค เจ้าของรถ ให้ข้อมูลในภายหลังว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ แม้ไม่สูญเสียทรัพย์สินไป แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับเจ้าของรถที่จะนำรถไปเข้าอู่ ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังที่เจ้าของอู่ไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่เป็นความบกพร่องของทางอู่ เพียงแค่เสี้ยววินาทีช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ แค่ไม่ถึง 1 นาที ที่ตนเองกำลังขับรถนำเงินไปจ่ายค่าเปลี่ยนยางให้ทางอู่ ก็ขับรถสวนทางกับรถของตนเองที่สวนทางไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้นึกเอะใจอะไร กระทั่งไปถึงอู่ จึงทราบว่ารถถูกขโมยไป โชคดีที่ตำรวจสามารถติดตามหาและนำกลับคืนมาได้ 
สำหรับตัวรถ ไม่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น มีเพียงลำโพงหลุดออกมา คาดว่าเกิดจากการนอนทับ แต่ได้ซ่อมเรียบร้อยแล้ว
ด้าน น.ส.รัตนา อรัญพฤกษ์ อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ บอกว่า หลังทราบเรื่องว่ารถลูกสาวหายจากอู่ก็ตกใจเป็นอย่างมาก และเกิดความกังวลใจ ว่าจะได้รถคืนหรือไม่ กระทั่งได้รับข่าวดีในช่วงเช้าของอีกวัน ว่าเจอรถแล้ว ต้องขอขอบคุณ ร.ต.อ.สันติ ชาตระกาญจน์ รอง สว.สส.สภ.นบพิตำ พร้อมชุดเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง และชาวบ้านในพื้นที่ ที่ช่วยกันออกตามหากันทั้งคืน
อย่างไรก็ตาม ทราบจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า พบเห็นผู้ก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะไปอาศัยข้าววัดกินเป็นประจำ ก่อนลงมือขโมยรถกระบะ ก็ได้ไปขโมยรถจักรยานยนต์จากในเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อขับขี่มุ่งหน้าไปยังวัดกรุงนาง แต่เกิดน้ำมันหมด จึงเดินย้อนกลับมา แล้วเดินวนเวียนอยู่ที่หน้าอู่ แต่ไม่มีใครเอะใจ เพราะพบเห็นเป็นประจำ จึงไม่คิดว่าจะลงมือก่อเหตุขโมยรถ และขับรถกลับไปที่วัด ก่อนไปนอนหลับคารถที่ขโมยไป
ทั้งนี้ เมื่อผู้เสียหายพบผู้ก่อเหตุ ได้พยายามสอบถามถึงเหตุผลในการก่อเหตุ แต่ไม่ได้ความ เนื่องจากยังอยู่ในอาการมึนเมา คาดว่าน่าจะเมายาเสพติด
