“ของผมไม่มีคนละครึ่ง เราต้องเต็มร้อย ตอนนี้ก็จะมาอีกแล้วคนละเสี้ยว ไม่รู้ว่าจะมาเรียกเก็บภาษีกันในภายหลังหรือไม่? ผมจะเอาภาษีของพวกเราทุกคนมาเติมสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุดีกว่า จะได้กินได้ใช้ เงินจะได้หมุนเวียนในชุมชนคนรากหญ้าอย่างพวกเรา”
… นี่คือคำพูดของคนชื่อ ‘วิโจน์ ลักขณาอดิศร’ ผู้ลงชิงชัย ในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 1 พรรคก้าวไกล ที่มีความมุ่งมั่นต้องการอยากให้ทุกชีวิตใน กทม.ดีขึ้น สามารถลืมตาอ้าปากได้ ให้ทุกคนมีความเท่าเทียมและเสมอภาค มุ่งเน้นไปในเรื่องของสวัสดิการ โดยนำเงินภาษีของประชาชนทุกคน ลงมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นำเงินภาษีที่ดินมาเติมสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ,เด็ก,ผู้พิการ รวมถึงการกระจายงบประมาณลงในชุมชน ไม่ให้เหมือนที่ผ่านมา ที่เงินเหล่านั้นมักเข้าไปอยู่ในกระเป๋าส่วนตัวของผู้ที่มีอำนาจ ไปหล่อเลี้ยงแต่นายทุนใหญ่
เกือบ 1 เดือนเต็มที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. แต่ละคนของแต่ละพรรคใหญ่น้อย ไม่ว่าพรรคเก่าที่เก๋าเกมส์ทางการเมือง หรือแม้แต่พรรคใหม่ที่ไฟแรง อาจจะแซงนำหน้าพรรคเก่าไปได้อย่างง่ายดาย เพราะเต็มไปด้วยแผลฉกรรจ์ ทุกพรรค ทุกทีม ต่างพากันงัดกลยุทธ์ไม้เด็ด วางแผนเดินเกมส์ลงพื้นที่เรียกคะแนนเสียงจากพี่น้องคนกรุง ซึ่งดูแล้วก็ไม่ค่อยเห็นถึงความแตกต่างด้านนโนบาย โดยเฉพาะการฟื้นคืนชีพเมืองกรุงให้กลับมาศิวิไลซ์ดังเดิม หลังต้องประสบกับปัญหาทั้งเศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้แต่โควิด-19 ที่กัดกร่อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนให้ถดถอยมาต่อเนื่องยาวนานนับ 10 ปี ทั้ง…
ข่าวน่าสนใจ:
- สืบชัยภูมิเร่งปูพรมขยายผลจับแก๊งขนยาบ้าฝ่าจุดสกัด ตร.หลบหนียึดยาบ้าได้อีกลอตใหญ่รวมกว่า 3.5 แสนเม็ด!
- ตม.สระแก้วสนธิกำลังจับคนไทยลักลอบนำชาวจีน 7 คน เวียดนาม 1 คน หลบหนีเข้าเมืองพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
- นนทบุรี รถบรรทุกข้ามเกาะกลางถนนพลิกคว่ำ 2 ตลบ คนงานดับ 2 เจ็บ 2
- มทบ.210 ร่วมกับ อบต.โพธิ์ตาก ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางพร้อมมอบผ้าห่มกันหนาวและเครื่องอุปโภคบริโภค
ปัญหาน้ำทั้งระบบ, ขยะ, สิ่งแวดล้อม, รถไฟฟ้า, คุณภาพชีวิต, ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, ความยากจน… ล้วนแล้วแต่เป็นนโยบายหลัก ๆ ของผู้สมัครทุกคน ที่นำมาใช้หาเสียง
… ภารกิจหาเสียงในแต่ละพื้นที่ของ ‘วิโรจน์’ พุ่งตรงไปยังพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ ที่ยังคงขาดการเหลียวแลจากภาครัฐ อย่างชุมชนตึกร้างบางพลัด, ชุมชนตึกแดงบางซื่อ, ชุมชนมหาสิน หรือแม้กระทั่งล่องเรือสำรวจชีวิตผู้คนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ริมน้ำตลอดสองฝั่งคลอง พร้อมสำรวจเส้นทางขนส่งมวลชนทางน้ำ เพื่อผลักดันเส้นทาง ทางเรือ เช่น ที่คลองวัดไทร ซึ่งมีบ้านเรือนมากกว่า 150 หลัง นั่นหมายถึงความหนาแน่นของจำนวนประชากรคนริมน้ำ รวมถึงการศึกษาเส้นทางประวัติศาสตร์ และความหลากหลายของวิถีชีวิตชาวฝั่งธนบุรี ในเขตบางกอกใหญ่
การลงไปพื้นที่ใด ชุมชนไหน ‘วิโรจน์’ มักมีแต่คำพูดที่ทำให้ผู้ฟังเข้าถึงความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง กับสิ่งที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน นั่นคือ ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ถือเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกล ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ ‘เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ’ มาตลอด โดยเฉพาะความเท่าเทียมกันของคน จึงเป็นสิ่งที่ ‘วิโรจน์’ ต้องลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยกับประชาชนในทุก ๆ วัน เพื่อบอกกล่าวให้รู้กันว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมาร่วมกันเขย่า กทม.ให้ก้าวไกลไปข้างหน้า
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนชื่อ ‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ ดูโดดเด่นไปกว่าผู้สมัครรายอื่น ๆ นอกจากบุคลิกลักษณะท่าทางที่ดุดัน เสียงดังฟังชัด โผงผาง ตรงไปตรงมา ไม่สนใครหน้าไหน คือ ความแม่นยำในข้อมูลและตัวเลข แบบเป๊ะเว่อร์ ซึ่งได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง บ่งบอกถึงความพร้อมในข้อมูลและความตั้งอกตั้งใจ ที่แม้แต่อดีตผู้บริหารเสาชิงช้าจำต้องสยบ
“เราไม่ได้ขายคาแล็กเตอร์ของผู้ว่าฯ ผู้สมัคร แต่เราขายนโยบาย เรานำเสนอประโยชน์ของนโยบาย และประชาชนตอบรับนโยบายของเรา เชื่อว่าวันนี้ คนกรุงเทพฯ เปลี่ยนแล้ว ปี 2565 ประชาชนจะตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ จากนโยบายที่เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง ที่ทำให้เมืองเมืองนี้เป็นธรรมและทำให้คนเท่าเทียมกัน” วิโรจน์ พูดทิ้งท้ายด้วยเสียงที่หนักแน่น ดุดัน
♦กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์♦
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: