กรุงเทพฯ – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ย้ำบนเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ถึงความเป็นอิสระ ขอทำ ‘กรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน’ ไม่สนโพลและวิชามาร แพ้-ชนะ ไม่สำคัญ 22 พ.ค.รู้ผล ประชาชนเป็นคนตัดสิน
วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 แสดงวิสัยทัศน์ต่อทีมเพื่อนชัชชาติและผู้สนับสนุนจำนวนมาก ในระหว่างการปราศรัยใหญ่ ที่ศาลาแปดเหลี่ยม สวนลุมพินี โดยตลอดระยะที่นายชัชชาติพูด ได้สร้างบรรยากาศให้ผู้รับฟังได้จินตนาการอนาคตของกรุงเทพมหานคร ไปตามนโยบายต่าง ๆ ที่ทีมชัชชาติ ได้ลงพื้นที่ 2 ปีทำให้เข้าใจปัญหา เพื่อทำกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘กรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน’ ด้วย 3 มิติการพัฒนา ประกอบด้วย
มิติที่ 1 ด้านประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ให้ข้าราชการ กทม.หันหลังให้ผู้ว่าฯ และหันหน้าให้ประชาชน ไม่ส่วย-ไม่เส้น ใช้เทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการและส่งเสริมความโปร่งใส
มิติที่ 2 ด้านคุณภาพชีวิต ดูแลคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่แรกเกิดถึงสูงอายุ รวมทั้งคนพิการ คนไร้บ้าน คนหลากหลายทางเพศ ฯลฯ มุ่งแก้ปัญหาเส้นเลือดฝอย เช่น ทางเท้า ขยะมูลฝอย น้ำท่วม PM2.5 อากาศบริสุทธิ์ต้องเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน การศึกษา และสาธารณสุข
มิติที่ 3 ด้านส่งเสริมโอกาสของเมือง เพื่อสร้างโอกาสให้ทุกคน กทม.ต้องเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจให้ทัดเทียมกับต่างประเทศให้ได้ และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว
ข่าวน่าสนใจ:
- กฟผ. คว้ารางวัล 'ต้นแบบองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนดีเด่น'
- "ยูเนสโก" รับรอง "ต้มยำกุ้ง"อาหารไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ฯ ประจำปี 2567
- วธ.เผย"ยูเนสโก" ประกาศรับรอง"เคบายา" มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ ประจำปี 2567
- ชาวบาบ๋าอันดามันเตรียมเฮ ฉลองการประกาศเคบายา เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567
นายชัชชาติ ย้ำว่า การลงพื้นที่ทุกตารางนิ้วทั้ง 50 เขต ของ กทม. ที่มีประชากรมากกว่า 6 ล้านคน ทำให้รู้ว่าคน กทม.ต้องการอะไร และไม่ต้องการอะไร ซึ่งแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจคต์) อย่างรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น แต่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนชายขอบและคนไร้บ้านที่อยู่ตามตึกร้าง เพราะสิ่งที่ต้องการ คือ คุณภาพชีวิตที่ดี
งบประมาณของ กทม.กว่าหมื่นล้านบาทที่ต้องเสียไป และกลายเป็นหนี้เป็นสิน ถ้านำเงินส่วนนี้มายกระดับคุณภาพชีวิตคนเหล่านี้จะดียิ่งกว่า
สำหรับคำถามที่ถูกถามบ่อยมาก ซึ่งเป็นข้อกังขาของพี่น้องประชาชน ในเรื่องความเป็นอิสระทางการเมือง จากการติดภาพในอดีต ขอยืนยัน นั่งยัน และนอนยันว่า “วันนี้ ตนเองมีความเป็นอิสระ” และลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใด และได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย มาตั้งแต่ปี 2564 พร้อมตั้งใจจะทำเพื่อคนกรุงเทพฯ ขอให้คนกรุงเทพฯ มั่นใจ
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ที่สร้างความแตกต่าง ทั้งป้ายหาเสียงขนาดเล็ก เป็นความตั้งใจของทีมงาน เพื่อลดปริมาณขยะ และการเลือกผู้สมัครอยู่ที่นโยบาย ไม่ได้เลือกที่ขนาดป้ายว่าป้ายต้องใหญ่ หรืออย่างการใช้รถอีวี ในการหาเสียง เพื่อต้องการลดมลพิษ ที่ในอนาคตข้างหน้า กรุงเทพฯ จะต้องใช้รถอีวีให้มากขึ้น
ก่อนจบการแสดงวิสัยทัศน์ นายชัชชาติ ขอให้ทุกคนมาร่วมกันเดินและวิ่งไปด้วยกัน ทำกรุงเทพฯ ให้น่าอยู่ พร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน
ภายหลังการแสดงวิสัยทัศน์ นายชัชชาติ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีผลสำรวจความเห็น (โพล) ที่ออกมาว่าตนเองนอนมา หรือไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครายอื่น และการใช้วิชามาร ว่า ถ้านอนมาคงไม่ต้องลงพื้นที่ โพลและวิชามารต่าง ๆ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำการเมือง แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ประชาชน ไม่ว่าจะมีอะไรเข้ามา ก็เชื่อว่าประชาชนจะตัดสินใจได้
เมื่อถามว่า เห็นอะไรเมื่อลงจากเวที นายชัชชาติ บอกว่า มองเห็นพลัง เห็นคนที่จะก้าวไปด้วยกัน ทุกคนที่มามาด้วยใจ มาจากที่ได้สื่อสารไปทั้งหมด ไม่มีการจัดตั้ง มีคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกรุ่น ทำให้ปลื้มใจ จากตอนแรกคิดว่าจะไม่มีคนมา เพราะฝนตก แต่พอเห็นภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้ตื้นตันและภูมิใจมาก
ต่อข้อถามที่ว่า มองเห็นเส้นชัยแล้วหรือยัง นายชัชชาติ ตอบว่า เห็นแล้ว อีก 2 อาทิตย์นี้ จะแพ้หรือชนะไม่สนใจ แต่ขอวิ่งไปให้ไกลไปให้เยอะ และมีเพื่อนวิ่งตามมาเรื่อย ๆ อยากวิ่งไกลก็ต้องวิ่งให้เยอะ ส่วนคะแนนดิบที่มีอยู่ในมือ นายชัชชาติ ตอบแบบขำ ๆ ว่า มีเพียง 40 เสียง คือ เสียงทีมงานเท่านั้น คิดไปก็เสียเวลา เอาเวลาไปคิดนโยบาย ไปถามปัญหาประชาชนจะดีกว่า
“สิ่งสำคัญที่สุดที่ลงพื้นที่ คือ มีแต่คนฝากความหวังไว้กับตนเอง “ฝากกรุงเทพฯ ด้วย” สิ่งที่เก็บเกี่ยวมาจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง กรุงเทพฯ เหมือนเพชรที่ยังไม่เจียระไน มีสิ่งที่มีค่าอีกเยอะแยะ เป็นเมืองที่มีศักยภาพ คนมีศักยภาพ ชุมชนเข้มแข็ง คนรุ่นใหม่มีพลัง แต่ยังไม่ผ่านการเจียระไน เพียงแค่กระจายอำนาจให้คน ก็จะเป็นเมืองที่มีคุณภาพได้ ท้ายที่สุด อย่าไปกังวลมาก คืน วันที่ 22 พ.ค. รู้ผล อย่าไปคิดอะไรมาก” นายชัชชาติ กล่าวทิ้งท้าย
♦กิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์♦
ชมไลฟ์เวทีปราศรัยตั้งแต่ต้นจนจบได้ที่ : https://fb.watch/cTVwgVbnP7/
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: