กรุงเทพฯ – นายกฤตชัย พยอมแย้ม ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 29 จับ 10 ผู้สมัคร ส.ก. แถลงนโยบาย ‘ใกล้ ใหม่ ใหญ่’ เฉือน แนวทางหาเสียงผู้สมัคร มาเพราะนายทุน เหตุใช้งบฯ โอเวอร์ ท้า ไม่คืนทุน ให้เหยียบหน้า
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 พรรคประชากรไทย ทาวน์อินทาวน์ นายกฤตชัย พยอมแย้ม ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 29 พรรคประชากรไทย เปิดแถลงนโยบายแนวคิด ‘ใกล้ ใหม่ ใหญ่’ พร้อมเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้ง 10 คน โดยมี นายคณิศร สมมะลวน หัวหน้าพรรคประชากรไทย พร้อมผู้บริหารพรรค ร่วมรับฟัง
นายกฤตชัย ได้อธิบายถึงแนวคิดนโยบาย ‘ใกล้ ใหม่ ใหญ่’ ที่จะทำให้คนกรุงเทพฯ อยู่ดีกินดีมีสุขทันที ด้วยการใช้งบประมาณแผ่นดินให้น้อยที่สุด
‘ใกล้’ คือ ผู้ว่าฯ กทม.จะต้องใกล้กับประชาชนจริง ๆ จึงจะเข้าใจปัญหาได้มากที่สุดและแท้จริง ประชาชนต้องสามารถเข้าถึงผู้ว่าฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ‘ออนไลน์ ทาวฮอลล์ (Online Townhall)’ ที่ประชาชนร้องเรียน ติชม และให้คำแนะนำ ได้ตลอดเวลา รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ดูแลเด็กเล็กและโรงเรียนผู้สูงอายุในทุกชุมชน
‘ใหม่’ คือ การบริหารจัดการชีวิตคนกรุงเทพฯ โดยนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตคนค้าขาย สตรีทฟู้ด และการใช้แอปพลิเคชัน SOS เพื่อให้ทุกคนได้รับความปลอดภัย และได้รับความช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อต้องการจากคนรอบข้าง และที่สำคัญ ส่งเสริมให้คนกรุงเทพฯ มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง
‘ใหญ่’ คือ การสร้างศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เพื่อขยายเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ให้เติบโตขึ้นด้วยการ สร้างศูนย์กลางสตาร์ทอัพที่เชื่อมต่อถึงผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนในประเทศชั้นนำ สร้างแลนมาร์กทางธุรกิจ ศูนย์กลางสินค้ากรุงเทพฯ สู่ระดับโลก ศูนย์กลางสถาบันการเงินนานาชาติ ศูนย์กลางการค้าและผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัล ศูนย์กลางตลาดแรงงานดิจิทัล และการส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งความบันเทิงของโลก
นอกจากนี้ นายกฤตชัย ยังให้ผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 10 เขต แนะนำตัว และพูดถึงนโยบายสั้น ๆ ดังนี้
1.นายกรวิชญ์ พูนผล เขตลาดพร้าว หมายเลข 9 เน้นแก้ปัญหาสภาพพื้นผิวจราจร การนำเทคโนโลยีมารักษาความสะอาดและปลอดภัยให้พ่อค้า-แม่ค้า
2.นายชัยยะ ศรีภา เขตบางเขน หมายเลข 9 เสนอมาตรการเพื่อรองรับให้ธุรกิจต่าง ๆ เปิดตลอดไม่มีปิด แม้มีโรคระบาด
3.นายมโนกร โรจนสุวรรณ เขตหลักสี่ หมายเลข 7 ต้องการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษา และใช้ AI เพื่อแก้ปัญหารถติด
4.นายเดชบดินทร์ มาสิลีรังสี เขตสายไหม หมายเลข 8 จะผลักดันการลดช่องว่างระหว่างคนรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่
5.นางสาวปภัสรินทร์ กีรติอัคราวัชร์ เขตบางแค หมายเลข 8 เสนอนโยบายสร้างสวัสดิการชีวิตและเครดิตธุรกรรมทางการเงินให้ทุกกลุ่มอาชีพ
6.นางสาวฤดีมาศ เที่ยงทัศน์ เขตดอนเมือง หมายเลข 7 เสนนอใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาชุมชนแออัดและสร้างอาชีพในแหล่งชุมชนและตลาด
7.นายจักรพันธ์ สุรีย์ส่อง เขตวัฒนา หมายเลข 8 จะเปิดให้ประชาชนเข้าถึง ส.ก.ผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอดเวลา
8.นางสาวหฤทัย ทวีพรกิจกุล เขตปทุมวัน หมายเลข 8 เสนอจัดระเบียบและเพิ่มการจองพื้นที่เพื่อค้าขายด้วยเทคโนโลยี
9.นางสาวแพรลฎา พจนารถ เขตสวนหลวง หมายเลข 10 ผลักดันการสร้างความเท่าเทียมทางโอกาสทางการศึกษาและตอบโจทย์ตลาดแรงงาน
10.นายอดิเทพ จาวลาห์ เขตดุสิต หมายเลข 10 เสนอนโยบายรับวัคซีนด้วยความสมัครใจ และการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน และผลักดันการมีทนายบริการประชาชนกรณีมีการฟ้องร้อง
ต่อมา นายกฤตชัย พยอมแย้ม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยให้ความเห็นถึงเรื่องงบประมาณในการหาเสียงว่า ต้องยอมรับว่าเป็นกฏกติกาตามกฎระเบียบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกำหนดให้ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ใช้งบฯ หาเสียงได้ถึง 49 ล้านบาทนั้น ดูแล้วโอเวอร์ ซึ่งมากเกินไป ต้องถามย้อนกลับว่า คนที่ใช้งบประมาณเยอะ หากได้เข้าไปเป็นแล้ว จะเรียกทุนคืนไหม “ผมขอท้าเลย ถ้าใครบอกว่าไม่คืนทุน ให้เอาเท้ามาเหยียบหน้าผมเลย ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ความเป็นจริงการหาเสียงที่ใช้งบฯ สูงขนาดนี้ หมายถึง การมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง แต่พรรคประชากรไทยทำทุกอย่างด้วยใจ จะชนะหรือไม่ชนะ ต้องบอกว่าต้องชนะ หลายคนอาจจะมองว่าจะไม่ชนะ ขอโทษอย่าเพิ่งดูถูกพวกเรา เชื่อว่าคนกรุงเทพฯ มีความคิด โดยเฉพาะผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก (นิว โหวตเตอร์) จะสามารถเป็นกำลังแรงหลัก ที่จะส่งพรรคประชากรไทยไปดูแลคนทุกกลุ่มได้” 
ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 29 ยังยืนยันว่า การเปิดตัวครั้งนี้ ไม่ได้ล่าช้า ในอดีต สมัยนายสมัคร สุนทรเวช อดีตหัวหน้าพรรค ยังเคยติดป้ายหาเสียงสัปดาห์สุดท้าย แต่วันนี้ พรรคเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ทั้งหมด ทั้งนโยบายที่จับต้องได้ หรือแม้กระทั่งผู้สมัคร ส.ก. ก็เป็นคนหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ พรรคมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาและดูแลทุกข์สุขของคนกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง ด้วยการไม่โกงกิน ทำการเมืองอย่างใสสะอาดบริสุทธิ์
ส่วนนโยบายที่ถามถึงกันมากนั้น ได้พูดไปในทุกเวทีและอธิบายให้สื่อฟังไปมากแล้ว ขอย้ำว่า ทุกนโยบายเป็นสิ่งที่ทำได้จริง ไม่ได้ขายฝัน และถ้าได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. สิ่งแรกที่จะดำเนินการ คือ การแก้ปัญหาเรื่องน้ำ
ท้ายสุด นายกฤตชัย ฝากถึงคนกรุงเทพฯ ให้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันมาก ๆ โดยให้เลือกพรรคประชากรไทย และตนเอง ในฐานะผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 29
ทั้งนี้ นายกฤตชัย ได้ตอบคำถามเพียงสั้น ๆ ในทุกคำถาม พร้อมแสดงท่าทางขึงขังและน้ำเสียงดุดัน เมื่อถูกจี้ถาม
ในช่วงท้ายของการแถลง นายสุมิตร สุนทรเวช ประธานพรรคประชากรไทย กล่าวให้กำลังใจและสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้สมัครของพรรค ว่า นับเป็นทศวรรษใหม่ของพรรค ที่มีคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ และหัวใจ ที่จะมาทำงานเพื่อประชาชน สำหรับตนเองทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้คนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาสานต่อพรรค ให้ลงไปสู่ผู้คนให้ได้มากที่สุด วันนี้ คนเหล่านี้จะต้องมาเชื่อมต่อและสานต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่พรรคทำ ตั้งแต่นายสมัคร สุนทรเวช ทำไว้และยังไม่ได้ทำ เป็นหน้าที่คนรุ่นใหม่ที่ต้องมาทำให้เสร็จ
ติดตามชมการแถลงนโยบายได้ที่ :
