กรุงเทพฯ – รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนกระตุ้นประชาชนรับวัคซีนโควิด เข็ม 3 ให้มากที่สุด พร้อมติดตามเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง
วันที่ 2 สิงหาคม 2565 ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 28/2565
ที่ประชุมรับทราบถึงประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 19), คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่ 7/2565 เรื่อง การปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 13) และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 15) ซึ่งอาจจะมีผลในการกำกับควบคุมการชุมนุมที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่กรุงเทพมหานครอนุญาต หากเป็นการชุมนุมในสถานที่ 7 แห่ง ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง จัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ ยังสามารถดำเนินกิจกรรมได้ โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการใช้สถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ
สำนักการอนามัย รายงานผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กลุ่มเป้าหมายหลัก กลุ่ม 608 พบว่า มีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 3 ยังไม่ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 70% รองผู้ว่า กทม.จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์สาเหตุ เพื่อวางแผนกระตุ้น เชิญชวนให้ประชาชนรับวัคซีนให้มากที่สุด เพื่อลดอาการรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต
ส่วนการสอบสวนผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง รายที่ 2 ของประเทศไทย ในพื้นที่เขตบางพลัด มีผู้สัมผัสใกล้ชิดร่วมบ้าน 17 คน แยกเป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 14 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 3 คน ผู้สัมผัสใกล้ชิด (ชาวต่างชาติ) 2 คน ผู้สัมผัสในสถานศึกษา 5 คน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ จากศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ไม่พบสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสฝีดาษลิง
ด้านการเตรียมรับมือโรคฝีดาษลิง กทม.ได้ให้ความรู้แก่บุคลากรด้านสาธารณสุข เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์ แจ้งศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิก โรงพยาบาล หากพบผู้ป่วยสงสัยให้แจ้งไปที่ กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักการอนามัย พร้อมทั้งประสานนายกสมาคมโรงแรมไทย เพื่อแจ้งโรงแรมทุกแห่งในกทม. หากพบผู้ป่วยสงสัยให้รายงานไปที่สำนักงานเขตและ/หรือ ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่
สำหรับแผนงานที่จะดำเนินการต่อไป ดังนี้
1.ประสานร้านขายยาในพื้นที่ กทม. เพื่อช่วยเฝ้าระวัง
2.ประสานงานกับเครือข่ายหลากหลายทางเพศ เพื่อให้ความรู้และร่วมเฝ้าระวัง
3.จัดประชุมถอดบทเรียนการรับมือโรคฝีดาษลิงในสถานพยาบาล วันที่ 3 ส.ค.65
4.สื่อสารประชาสัมพันธ์ด้านองค์ความรู้ให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับการสังเกตอาการและการป้องกันโรค
รองผู้ว่า กทม.กำชับให้สำนักงานเขต สำนักการอนามัย สำนักการแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามข้อมูลสถานการณ์ในพื้นที่ และเฝ้าระวังหากพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่าย ให้แจ้งศูนย์บริการสาธารณสุขโดยเร็ว โดยปฏิบัติตามแนวทางการเฝ้าระวังและสอบสวนโรคฝีดาษลิง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
