กรุงเทพฯ – ผู้ว่า กทม. นำทีมลุยสุ่มตรวจผับย่านรัชดา พหลโยธิน เขตจตุจักร เร่ง 18 ร้านแก้ไขทางหนีไฟให้ถูกต้อง พร้อมไฟฉุกเฉินและอุปกรณ์ดับเพลิง ส่วนทั้ง กทม.ต้องปรับปรุง 83 แห่ง สั่งปิดแล้ว 3 แห่ง
วันที่ 8 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 17.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร กทม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการที่ให้บริการคล้ายสถานบันเทิง ย่านรัชดาซอย 36 และถนนพหลโยธิน ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ผับ ‘เมาน์เทน บี (MOUNTAIN B)’ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่นักเที่ยวที่เข้าใช้บริการ
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า หลายแห่งมีใบอนุญาตประเภทธุรกิจร้านอาหาร และใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เนื่องจากมีการแสดงดนตรีสด จึงเข้าข่ายประกอบธุรกิจสถานบันเทิง อาคารส่วนใหญ่มีการดัดแปลง จากอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นจำนวน 3 คูหา ตั้งสถานบริการที่ชั้น 2 โครงสร้างอาคารไม่ได้มาตรฐาน มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียว และไม่มีอุปกรณ์ระงับเหตุอัคคีภัย หรือมีแล้วหมดอายุ เสื่อมสภาพไม่สามารถใช้งานได้ ถือว่าฝ่าฝืนข้อระเบียบ และผิดพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่ระบุว่า อาคารประเภทสถานบันเทิงต้องมีทางเข้าออก ทางออกฉุกเฉิน (ทางหนีไฟ) อย่างน้อย 2 ทาง
พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบสถานบริการตามที่ต่าง ๆ พบเข้าข่ายกระทำความผิด และผิด พร.บ.ควบคุมอาคารหลายแห่ง จึงให้เขตจตุจักรทำหนังสือส่งให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น กำหนดทางหนีไฟ และอุปกรณ์ระงับเหตุอัคคีภัย ต้องมีถังดับเพลิง 1 ถังต่อพื้นที่ 100 ตารางเมตร รวมถึงให้นำวัสดุที่นำมาประดับตกแต่งอาคารสถานที่ที่ติดไฟง่ายออกจากร้าน ก่อนจะกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งเพื่อป้องกันเหตุ และนอกจากนี้ ยังกำชับเรื่องการเปิดให้บริการที่ไม่ตรงประเภท และพื้นที่โซนนิ่งที่กฎหมายระบุไว้ เฉพาะบางรัก พัฒน์พงษ์ มักกะสัน เพชรบุรี RCA รัชดา ห้วยขวาง
พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวเพิ่มเติมถึงปัญหาการเก็บส่วยในพื้นที่ เรื่องนี้ผู้ว่าฯ กทม. กำชับมาอย่างชัดเจน ให้ป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการเก็บจากเจ้าหน้าที่ระดับไหนสามารถแจ้งได้ที่ระบบ ทราฟฟี่ ฟองดูวร์ หรือที่สำนักงานเขต รวมถึงการตรวจสถานประกอบการสถานบันเทิงจะต้องส่งผลรายงานเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้เห็นถึงความคืบหน้าการปรับปรุงแก้ไข
ด้านนายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่จตุจักร มีร้านอาหารที่ประกอบธุรกิจคล้ายสถานบันเทิง 46 แห่งทำถูกต้องตามระเบียบ 11 แห่ง ปรับปรุงแล้ว 17 แห่ง เหลืออีก 18 แห่ง ที่ต้องแก้ไขทางหนีไฟให้ถูกต้อง พร้อมติดตั้งไฟฉุกเฉินและอุปกรณ์ดับเพลิง โดยในพื้นที่เขตจตุจักร ภายใต้ความดูแลของ สน.พหลโยธิน มีสถานประกอบการที่จดแจ้งเป็นสถานบันเทิงที่เดียว เพราะเปิดให้บริการก่อนการจัดระเบียบโซนนิ่งของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งสถานบันเทิงดังกล่าวทำถูกต้องตามระเบียบ 
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวชื่นชมเขตจตุจักร ที่ตรวจสถานประกอบการได้หลายแห่งและละเอียด อย่างไรก็ตาม ต้องดูความเสี่ยงของแต่ละร้านตามความเหมาะสมด้วย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานบริการที่ต้องปรับปรุงเรื่องทางหนีไฟ มี 83 แห่ง เบื้องต้นสั่งปิดปรับปรุงแล้ว 3 แห่ง และออกจดหมายให้ดำเนินการแก้ไขอีกกว่า 60 แห่ง ซึ่งมีบางส่วนแก้ไขไปแล้ว แต่ทั้ง 83 แห่งอาจจะไม่ได้เป็นสถานที่ที่อันตรายมาก เนื่องจากเป็นเพียงร้านอาหารที่มีการเล่นดนตรี และมีผู้คนใช้บริการไม่หนาแน่น แต่เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ จึงสั่งการให้ตรวจสอบเข้มข้น เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยสูงสุด
