กรุงเทพฯ – ปลัด กทม. กำชับ สำนักการระบายน้ำและเขตใช้กระสอบทรายอุดท่อ เมื่อจบภารกิจต้องรื้อถอน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบทุกครั้ง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสม่ำเสมอ
วันที่ 2 ตุลาคม 2565 ตามที่ปรากฏภาพชาวบ้านในซอยหลวงแพ่ง 6 เขตลาดกระบัง ช่วยกันนำกระสอบทรายออกจากท่อระบายน้ำ หลังพากันสงสัยว่า ทำไมน้ำในซอยจึงไม่ลด ทั้ง ๆ ที่หน้าซอยน้ำแห้งหมดแล้ว และตรวจสอบพบว่าท่อระบายน้ำตื้นผิดปกติ จึงตั้งข้อสังเกตกันว่า อาจจะมีกระสอบทรายอุดท่ออยู่ เหมือนที่เคยพบในจุดอื่น ทำให้น้ำไม่สามารถระบายออกได้
ข่าวน่าสนใจ:
ที่มาของคลิปภาพ : เฟซบุ๊ก หมู่จืด เมาปลิ้น
ชาวบ้านจึงช่วยกันเปิดท่อและพบกระสอบทรายอุดอยู่จำนวนมากจริง ๆ และได้ช่วยกันนำกระสอบทรายออก รวมประมาณ 70 กระสอบ จากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง น้ำในซอยก็ลดไปได้มาก โดยที่ทางเขตไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ เนื่องจากผัดผ่อนขอเข้าไปตรวจสอบในวันนี้ (2 ต.ค.65) ทั้งที่ชาวบ้านติดต่อไปตั้งแต่เมื่อวาน (1 ต.ค.65) แต่ชาวบ้านรอไม่ไหวต้องดำเนินการแก้ไขปัญหากันเอง
ล่าสุด นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กำชับสำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขต ให้ตรวจสอบพื้นที่และดำเนินการตามข้อสั่งการของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดังนี้
1.การปิดกั้นน้ำในท่อระบายน้ำ บ่อพัก และทางน้ำไหล ในถนน ตรอก ซอย ที่เชื่อมออกคู คลอง หรือแหล่งน้ำธรรมชาติ ด้วยกระสอบทราย อันมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนกลับ จากสภาวะระดับน้ำในคลองสูงกว่าระดับพื้นที่ และเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จหรือเสร็จสิ้นภารกิจ ให้รีบรื้อถอนออก เพื่อให้การระบายน้ำออกสู่คู คลอง สามารถทำได้ตามปกติ และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังจากการดำเนินการดังกล่าว
2.หากดำเนินการปิดกั้นดังกล่าวยังคงมีความจำเป็น เพื่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ให้จัดหาและติดตั้งเครื่องสูบน้ำรองรับ และสูบน้ำเร่งระบายในทุกจุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง
3.ให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบทุกครั้ง และจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ กทม.ได้เปิดช่องทางการรับแจ้งเหตุ และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากฝนตกหนักน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านทาง Traffy Fondue, ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม 0 2248 5115 หรือโทรสายด่วน 199 และศูนย์ประสานงานน้ำท่วม ทั้ง 50 เขต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: