กรุงเทพฯ : คนชายขอบกรุงเทพฯ ชีวิตที่ถูกลืม! ยังคงรอคอยการดูแลช่วยเหลือจากผู้รับผิดชอบ หลังน้ำท่วมขังนาน 2 เดือน จนเน่า! ซ้ำเติมด้วยอิทธิพล ‘พายุโนรู’
ทีมข่าว 77 ข่าวเด็ด ลงตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมขังในเขตมีนบุรี ซึ่งอยู่ชายขอบของกรุงเทพมหานคร ติดกับเขตหนองจอก พบว่ายังมีชาวบ้านเดือดร้อนจากน้ำท่วมมาเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งสภาพไม่ต่างกัน แต่ขาดการดูแลเอาใจใส่จากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะชุมชนเลียบคลองไผ่ผี กว่า 40 ครัวเรือน ยังคงอยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำสุดท้าย ก่อนระบายออกสู่แม่น้ำบางปะกง
โดยน้ำเข้าท่วมพื้นที่ ทั้งบ้านเรือน ถนนหนทาง บ่อปลา พื้นที่ทำการเกษตร มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ สภาพน้ำเริ่มเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น ทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันของคนในพื้นที่อยู่กันอย่างยากลำบาก
นางบุญธรรม เล็มเมาะ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267 ซอยสุวินทวงศ์ 13 แยก 2 มีอาชีพเก็บผักขาย อยู่บ้านไม้เก่า ๆ ผุพัง ยกพื้นสูง เพียงลำพัง ยังคงรอคอยการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเขตมีนบุรี ผู้รับผิดชอบโดยตรง เนื่องจากยากจนไม่มีรายได้อื่นนอกจากเงินผู้สูงอายุ แต่ก่อนยังออกไปหาเก็บผักตามธรรมชาติได้ แต่พอน้ำท่วมก็ไม่สามารถออกไปได้ ส่วนไก่ที่เลี้ยงไว้ 10 ตัว ก็ตายเพราะน้ำท่วม บ้างก็ถูกงูกิน เหลือแค่ 4-5 ตัว ประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายโรครุมเร้า ที่สำคัญ คือ โรคลมชัก
นางบุญธรรม เล่าอีกว่า เดิมทีอยู่กับหลานชายอีกคน มีอาชีพรับจ้าง ที่คอยช่วยดูแลยามเจ็บป่วย แต่ช่วงที่น้ำท่วม หลานต้องออกไปอาศัยอยู่กับเพื่อนภายนอก ตนเองค่อนข้างกังวลใจว่าโรคลมชักจะกำเริบในช่วงที่หลานไม่อยู่ โดยเฉพาะยามค่ำคืน ที่ผ่านมายังพอมีเพื่อนบ้านคอยดูแลช่วยเหลือเอาข้าวเอาน้ำมาให้อยู่บ้าง และในตอนนี้น้ำที่เน่าเสียเริ่มส่งผลให้ผิวหนังเกิดอาการคัน
“อยากจะย้ายบ้านออกไปอยู่หน้าถนน แต่ก็ไม่มีปัญญา ทุกปีจะต้องอยู่ในสภาพแบบนี้” นางบุญธรรมกล่าวทั้งน้ำตา
ขณะที่ชาวบ้านรายอื่น ๆ ตัดพ้อเป็นเสียงเดียวกันว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ห่างไกลการดูแล ก่อนนี้น้ำได้แห้งไปแค่เพียง 3 วัน พอพายุเข้าน้ำกลับท่วมมากกว่าเดิม ไม่รู้ว่ารอบนี้ปลายปีจะแห้งหมดไหม ทุกคนต่างตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบาก บ้านเรือน ถนน ซอย บ่อปลา น้ำเข้าท่วมขังนานกว่า 2 เดือน สภาพน้ำเริ่มเน่าเหม็น เสี่ยงต่อโรคภัย และสัตว์มีพิษทุกชนิด การใช้ชีวิตประจำวันค่อนข้างลำบาก และน่าเวทนา ตามมีตามเกิด ลูกหลานบางคนต้องปิดบ้านออกไปเช่าห้องอยู่ข้างนอกเพื่อให้เดินทางไปทำงานได้ ซึ่งถือเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นไปอีก ที่ผ่านมาก็มีเพียงเครือซีพี และ ส.ส.ในพื้นที่ เข้ามามอบข้าว มอบน้ำ ให้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอ
อยากเรียกร้องให้ ผู้อำนวยการเขต และ ส.ก. หันมาเหลียวแล ให้ความสนใจ และเข้ามาเยี่ยมเยียนในพื้นที่บ้าง โดยเฉพาะในตอนนี้ อยากให้มีหน่วยแพทย์ และอาสาสาธารณสุข (อสส.) เข้ามาดูแลสุขภาพและฟื้นฟูจิตใจบ้าง
ดูไลฟ์ฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ :
