กรุงเทพฯ – หอการค้าไทย-จีน หนุน สร้าง กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองทันสมัย ปลอดภัย น่าอยู่ ด้านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ประกาศ กรุงเทพฯ พร้อมแล้ว ที่จะแข่งขันกับฮ่องกงและสิงคโปร์ เดินหน้าดึงบริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุน ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การจัดงาน และประชุม ของภูมิภาค
วันที่ 17 ตุลาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวระหว่างประชุมหารือความร่วมมือกับ นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน และคณะ ในการผลักดันให้ กรุงเทพมหานคร เป็น ‘เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ’ ของภูมิภาค ว่า กรุงเทพฯ พร้อมจะเป็นเมืองศูนย์กลางการจัดงานต่าง ๆ ให้นานาชาติเข้ามาจัดการประชุม เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและผู้ประกอบการ ซึ่งขณะนี้กรุงเทพฯ พร้อมแล้ว ที่จะแข่งขันกับฮ่องกงและสิงคโปร์ ถ้าเราร่วมมือร่วมใจกัน
นโยบายหลักของ กทม. เป็นเรื่องง่าย ๆ คือ อยากให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ ฟังแล้วเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่การปฏิบัตินั้นไม่ง่าย หน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม. นอกจากการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแล้ว ยังต้องดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเป็นหัวใจของเมือง ไม่ว่าจะเป็น การสร้างงาน การหารายได้ให้เมือง การนำภาษีมาบริหารจัดการเมือง และมีหน้าที่ในการบริหารประสิทธิภาพของเมืองให้ธุรกิจต่าง ๆ เดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น เนื่องจาก กทม.เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งต้องอำนวยความสะดวกจากทางราชการให้โปร่งใส รวดเร็ว ฉับไว เพื่ออำนวยความสะดวกต่อภาคธุรกิจ เช่น การประสานขั้นตอนขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เรื่องการขาดแคลนแรงงานที่พูดภาษาอังกฤษได้ โดยหอการค้าไทย-จีน มีนักธุรกิจและผู้ประกอบการอยู่กว่าหมื่นคน ที่สามารถสร้างงานได้เป็นแสนตำแหน่ง เพิ่มรายได้ให้เมืองได้อีกจำนวนมากอีกด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- เปิดศึกชิงนายก อบจ.ปัตตานี อดีต สส.ท้าชน อดีตนายก อบจ.4 สมัยเดือดตั้งแต่วันแรก (มีคลิป)
- ศึกษาธิการระยอง จับมือเทคนิคระยอง และศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง จัดกิจกรรมโครงการเรียนดี มีความสุขสู่อนาคตที่สดใส
- “ลาบูม”หญิงเก่งชูนโยบายสู้ศึกชิงนายกเล็กเมืองสตูล
- THACCA ร่วมกับ วธ. สนับสนุน 220 ล้านบาท ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซอฟต์พาวเวอร์ไทย
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า ได้ตั้งเป้าให้ กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาค เช่น การจัดประชุมนานาชาติ เพื่อนำการประชุมจากทั่วโลก ให้มาจัดประชุมที่กรุงเทพฯ ไทยมีทั้ง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ พื้นที่กว่า 300,000 ตารางเมตร มีหอประชุมเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี มีโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและการประชุมกว่า 100,000 ห้อง รวมถึงมี Office Space อีกกว่า 10 ล้าน ตร.ม. พร้อมรองรับการจัดประชุมในธุรกิจไมซ์ (MICE) ซึ่งมีความสำคัญในการกระตุ้นและดึงบริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนในกรุงเทพฯ อาทิ ธุรกิจ Jewelry ธุรกิจสร้างสรรค์ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจ Creative Economy โดยให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางธุรกิจได้ จึงเป็นที่มาของการหารือกับสมาคมฯ ในวันนี้ ซึ่งจะมีการหารือในกลุ่มย่อยเพื่อลงรายละเอียดความร่วมมือด้านต่าง ๆ ต่อไป
“เป้าหมายของเรา นอกจากจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก เรายังส่งเสริมให้เป็นกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าลงทุนที่สุดอีกด้วย สุดท้ายแล้ว กรุงเทพฯ จะเป็นศูนย์กลาง ที่มีทุกอย่างพร้อมในการประกอบธุรกิจ ซึ่งเราต้องร่วมมือกันและไว้ใจซึ่งกันและกัน เชื่อว่ากรุงเทพฯ จะทะยานขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในการประกอบธุรกิจได้อย่างแน่นอน” นายชัชชาติ กล่าว
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า หอการค้าไทย-จีน ยินดีจะให้การสนับสนุนกิจกรรมของ กทม. เพื่อร่วมกันสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองทันสมัย มีความปลอดภัย น่าอยู่ แต่ยังคงรักษาศิลปวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์สำหรับชาว กทม. และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ปี 2563 ที่เป็นช่วงการระบาดของโควิด-19 หอการค้าไทย-จีน ได้สนับสนุนการทำงานของ กทม. โดยบริจาคเวชภัณฑ์ เพื่อนำไปช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน 4 ครั้งด้วยกัน
ส่วนปีนี้ หลายเขตประสบปัญหาน้ำท่วม ก็ได้บริจาคถุงยังชีพ 5,000 ถุง มูลค่า 1,500,000 บาท เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย
จากนั้น ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมคณะ เดินทางไปยังสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย เขตสาทร เพื่อรับมอบถุงยังชีพ 4,000 ถุง สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ กทม. จากนายชิม ชินวิริยกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทยและคณะ ร่วมกับชมรม 9 สมาคมจีน และสมาคมอำเภอต่าง ๆ รวมทั้งภาคีเครือข่าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: