กรุงเทพฯ – รองผู้ว่าฯ ศานนท์ หวังสร้างบุญ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ลาซาด้า จำกัด ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการชุมชนกรุงเทพฯ ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (BKK Brand x Lazada) เข้าสู่ตลาดออนไลน์
วันที่ 17 ตุลาคม 2565 นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ดร.วีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (BKK Brand x Lazada) ระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ บริษัท ลาซาด้า จำกัด
ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ Bangkok Brand และผู้ประกอบการชุมชนในกรุงเทพมหานคร ให้มีความแข็งแกร่ง สามารถเข้าสู่ตลาดจำหน่ายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ผ่านเครือข่ายระบบอินเตอร์เน็ต (Online) และสามารถแข่งขันได้ ด้วยการสร้างทักษะ ส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน โดยมีที่ปรึกษาให้คำแนะนำ ติดตามผลและช่วยแก้ไขปัญหา รวมถึงเพิ่มช่องทางการตลาดผ่าน Online นอกเหนือจากการจำหน่ายผ่านช่องทางการตลาดทั่ว ๆ ไป เป็นการเพิ่มกลุ่มเป้าหมาย Online ไปสู่กลุ่มผู้ซื้อที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยผ่านระบบเครือข่ายการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce platform online) กับลาซาด้า
รองผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ช่วงโควิด-19 มีการลงทะเบียนที่ต้องใช้เทคโนโลยีจำนวนมาก ทุกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ต้องมีอาสาสมัครมาช่วยลงทะเบียน สิ่งที่สำคัญ คือ มีอาสาที่เป็นอาสาเทคโนโลยีที่เท่าทัน หลายชุมชนต้องการความช่วยเหลือจากคนที่เข้าใจ Digital Economy ซึ่ง กทม.ไม่มีความเชี่ยวชาญพอเท่ากับลาซาด้า หรือคนที่เชี่ยวชาญอยู่แล้ว ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะร่วมมือกัน กทม.มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 300 กว่ารายที่ดูแล และ 600 กว่ารายการสินค้าอยู่ใน Bangkok Brand ซึ่งสามารถต่อยอดได้ จะมีผลิตภัณฑ์อื่นที่มาร่วมมือกับลาซาด้าได้ ไม่ใช่แค่ขาย แต่อยู่ที่ทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์ มีมูลค่ามากขึ้น คิดว่าลาซาด้าจะจับมือกับภาคีอื่น ๆ ที่จะร่วมมือกันได้
ตราผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร หรือ บางกอก แบรนด์ (Bangkok Brand) เป็นตราที่ใช้รับรองมาตรฐานและคุณค่าเชิงอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และหลักประกันความน่าเชื่อถือ ให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรร ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจ ในการเลือกซื้อสินค้า แบ่งเป็น 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ประเภทอาหาร ประเภทเครื่องดื่ม ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ประเภทของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก และประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร
