กรงเทพฯ – ผู้ว่าฯ กทม. สัญจรเขตยานนาวา เผย มีปัญหา 2 เรื่องหลัก คือ จราจรและมลภาวะ สั่งศึกษาแนวทาง ราดยางมะตอยทำเขื่อนแก้ปัญหาน้ำท่วมถนนพระราม 3 ซอย 52 ซึ่งเป็นพื้นที่นอกคั้นกั้นน้ำ เผย ก่อนสิ้นปี จะมีน้ำทะเลหนุนหนัก ๆ อีก 2 ครั้ง
วันที่ 29 ตุลาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการลงพื้นที่สัญจร และประชุมติดตามปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน ของสำนักงานเขตยานนาวา ว่า ช่วงเช้าได้ลงพื้นที่จุดน้ำท่วมบริเวณถนนพระราม 3 ซอย 52 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นแนวฟันหลอนอกคั้นกั้นน้ำ ประกอบกับฐานน้ำขึ้นสูงกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่ง กทม.ได้กั้นน้ำและดูดลงคลองตาห่วงที่อยู่ใกล้ ๆ ใช้พร่องน้ำเป็นแก้มลิงที่ดันน้ำลงคลองได้ จุดที่ได้รับผลกระทบประมาณ 800 เมตร จะรีบเสริมกระสอบทราย จริง ๆ แล้วปัญหา คือ มีคนอยู่ในซอยจำนวนมาก เมื่อนำกระสอบทรายวางจะมีปัญหาเวลารถเข้า-ออก ให้ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ดูว่า จะสามารถราดยางมะตอยเป็นเขื่อนกั้นได้หรือไม่ และชาวบ้านด้านในจะยินยอมหรือไม่
น้ำทะเลหนุนจะมีอีก 2 ครั้ง และเดือนหน้า (พ.ย.) จะสูงกว่านี้ วันนี้ ฐานน้ำ 1.27 เมตร เดือนหน้าจะมี 1.35 เมตร และปลายปี 1.35 อีกครั้ง จุดถนนพระรามที่ 3 ซอย 52 เป็นจุดที่หนักสุดใน 76 จุด ฟันหลอ โดยมีชุมชนโรงสีเป็นชุมชนอยู่ริมน้ำ แต่น้ำไม่ได้ไหลออกมาที่ถนนใหญ่ สภาพน้ำท่วมไม่ได้เป็นวงกว้าง อยู่ในพื้นที่จำกัด ยังควบคุมสถานการณ์ได้ มีช่วงเวลาที่น้ำขึ้นในตอนเช้าและตอนเย็น ระหว่างนี้ต้องเสริมแนวคันกั้นน้ำไว้ก่อน พร้อมรอรับมือเดือนหน้าและเดือนถัดไป
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาหลัก ๆ ของเขตยานนาวา มี 2 เรื่อง คือ เรื่องแรก การจราจรเนื่องจากมีการก่อสร้างในถนนพระรามที่ 3 คือ โครงการท่อร้อยสายไฟลงดิน ของการไฟฟ้านครหลวง ตอนนี้เริ่มมีปัญหาเรื่องการสั่นสะเทือน ถ้าพบว่ามีปัญหาจะให้หยุดการก่อสร้างก่อน เพื่อปรับปรุงให้ดี เรื่องที่ 2 มลภาวะ สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เพราะมีไซต์ก่อสร้าง มีแพลนท์ปูนมา บางครั้งก่อความเดือดร้อนรำคาญ สร้างปัญหาฝุ่น PM 2.5 จะให้สำนักการโยธาเชิญผู้ประกอบการแพลนท์ปูน ทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งมีรายใหญ่ประมาณ 11 ราย มาร่วมหารือและตกลงเรื่องมาตรการให้เข้มงวด เพื่อจะได้บังคับและสั่งการในแต่ละแพลนท์ปูนของตัวเอง เพื่อเตรียมรับมือ PM 2.5 และการจราจรด้วย เพราะรถปูนเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ
ด้านปัญหาชุมชนแออัด มีบางแห่งอยู่ในพื้นที่ของราชการ เช่น กรมธนารักษ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ถ้าสามารถทำสัญญาเช่าระยะยาว ให้มาทำบ้านมั่นคงได้ ก็จะมีความมั่นคงในชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะให้สำนักการพัฒนาสังคม ดูแลหรือพัฒนาในอนาคต ว่าจะหาที่ดินที่สามารถทำบ้านมั่นคงไดัอย่างไร
จากนั้น ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานร่วมในพิธียกเสาเอก ‘โครงการบ้านมั่นคง’ ของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเย็นอากาศ 2 ณ ชุมชนเย็นอากาศ 2 ถนนพระรามที่ 3 ซอย 77 แยก 2
ปัจจุบัน ชุมชนเย็นอากาศ 2 มีผู้อยู่อาศัย 364 หลังคาเรือน จำนวนประชากรประมาณ 1,200 คน เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 เกิดเหตุเพลิงไหม้ บ้านเรือนเสียหาย 33 หลัง จำนวน 46 ครัวเรือน ต้องรื้อแล้วสร้างใหม่บนที่ดินของกรมธนารักษ์
ต่อมา นายชัชชาติ ตรวจเยี่ยมชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนา 2 ซึ่งดำเนินการก่อสร้างบ้านมั่นคงเสร็จเรียบร้อยแล้วในระยะที่ 1 และอยู่ระหว่างการก่อสร้างระยะที่ 2 พร้อมติดตามปัญหาน้ำท่วมขังภายในชุมชน และพักรับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงเรียนวัดดอกไม้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ และฝ่ายโยธา เขตยานนาวา จำนวน 5 คน
ช่วงบ่าย ตรวจติดตามงานก่อสร้างศูนย์เยาวชนวัดดอกไม้ ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ โดยให้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กำชับผู้รับเหมาเร่งรัด
จากนั้น ลงพื้นที่ตรวจจุดอ่อนน้ำท่วมชุมชนโรงสี ถนนพระราม 3 ซอย 64 พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นที่ดินของเอกชน มีจำนวนบ้านเรือน 278 หลัง ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูง เนื่องจากพื้นที่ด้านตะวันออกติดแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อถึงฤดูน้ำมากหรือฝนตกหนักจะมีน้ำท่วมขัง และบ้านเรือนบางส่วนติดแม่น้ำเจ้าพระยา รุกล้ำที่ของกรมเจ้าท่า ซึ่งบริเวณนี้ไม่มีเขื่อนกั้นน้ำ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ลงพื้นที่รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมพิจารณาหาแนวทางแก้ไขเพื่อบรรเทาปัญหาให้กับประชาชนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: