กรุงเทพฯ – ผู้ว่าฯชัชชาติ เตรียมหารือความร่วมมือรัฐมนตรีคมนาคม ย้ำ ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว คือ ขั้นตอนที่ขาดหายไปจาก สภา กทม. เป็นหนี้ต้องจ่าย แต่ต้องผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้า เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ในข้อบัญญัติ กทม. ระบุไว้ชัดเจนว่า การที่ กทม.ไปสร้างภาระหนี้ผูกพันงบประมาณต้องผ่าน สภา กทม.ก่อน แต่ไม่เห็นว่า การทำสัญญาในส่วนต่อขยายที่ 2 ผ่านการอนุมัติจากสภาฯ ทั้งที่เป็นภาระหนี้ผูกพันที่ต้องจ่ายทุกปีต่อเนื่องไป
ดังนั้น กระบวนการตรงนี้ไม่สอดคล้องกับข้อบัญญัติ รวมถึงการจ่ายค่าซื้อรถ ซึ่งขณะนี้ได้มีหนังสือสอบถามไปยัง เลขาสภา กทม. ว่า ในอดีตที่ผ่านมา เคยผ่านมติจาก สภา กทม.หรือไม่
สำหรับส่วนต่อขยายที่ 1 ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเป็นโครงการที่ สภา กทม.เห็นชอบแล้ว และไปก่อหนี้ผูกพันผ่านเอกชน คือ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ขณะนี้รอให้คณะรัฐมนตรียุติการพิจารณาเรื่องสัญญาก่อน เพราะเป็นมูลหนี้ที่ต้องพิจารณา
“ปัญหา คือ มีขั้นตอนที่ขาดหายไป ใจเราไม่ได้มีปัญหาอะไร ถ้าหากเป็นหนี้ก็ต้องจ่าย แต่ต้องเป็นหนี้ที่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ขณะเดียวกัน เหมือนกับการรับโอนทรัพย์สินมาจากระทรวงคมนาคม มิติหนึ่งที่เรามอง มันก็คือการก่อหนี้ผูกพัน เพราะการรับทรัพย์สินมาก็คือการรับหนี้มา ต้องไปจ่ายหนี้เป็นภาระผูกพัน ซึ่งถ้าหากดูข้อบัญญัติ กทม. การนับหนี้มาก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภา กทม. คือ การสร้างหนี้ผูกพันในอนาคตซึ่งต้องนำงบประมาณมาจ่าย เท่าทีสืบสวนดูตอนที่เขาทำสัญญามอบหมายหน้าที่ก็มีความเห็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งบอกว่าต้องผ่าน สภา กทม. อีกส่วนหนึ่งบอกว่าไม่ต้องผ่าน” นายชัชชาติ กล่าว
ผู้ว่า กทม. เปิดเผยด้วยว่า เร็ว ๆ นี้ จะไปพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือในหลายประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือ ทั้งพื้นที่ใต้ทางด่วนที่จะขออนุญาตใช้ เช่น พื้นที่ของกรมทางหลวงชนบท ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ที่จะทำเป็นศูนย์คนไร้บ้าน หรือ บริเวณทางด่วนนานา อยากจะทำเป็น Hawker Center ให้หาบเร่แผงลอย ปัจจุบันเป็นศูนย์ OTOP อยู่ เรื่องการดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีเทา การเชื่อมโยงระบบต่าง ๆ ร่วมกับกระทรวงคมนาคม ซึ่ง กทม.ไม่ได้มีงบประมาณมาก อาจจะให้กระทรวงคมนาคมช่วยลงทุนและเชื่อมโยงเครือข่ายให้
