กรุงเทพฯ – กทม. ชี้แจงยิบ ชำระหนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ต้องมีความครบถ้วนตามข้อบัญญัติ และต้องผ่านการพิจารณาของสภา กทม.
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงความคืบหน้า การชำระหนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ข่าวน่าสนใจ:
โดยสรุปเหตุผลที่ยังไม่สามารถดำเนินการชำระหนี้สินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 กทม.ไม่มีเจตนาจะไม่ชำระหนี้ เนื่องจาก กทม. ได้สนับสนุนค่าบริการเดินรถและซ่อมบำรุงมาตลอดจนถึงเดือน เม.ย.62 จนกระทั่งมีคำสั่ง คสช. เมื่อ 11 เม.ย.62 ที่ให้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ และได้เจรจาให้ เอกชนรับภาระค่าจ้างเดินรถของส่วนต่อขยายที่ 1 ตั้งแต่ พ.ค.562 (ระบุไว้ในร่างสัญญาร่วมทุน)
ด้านมูลค่าหนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ค่าดอกเบี้ย เนื่องจาก กทม. ไม่มีเจตนาจะไม่ชำระหนี้ และสัญญาที่ กทม. ทำกับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ นอกจากนี้ กทม. เห็นว่า KT ควรจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อตรวจสอบ คิดคำนวณค่าจ้างใหม่ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ซึ่งอาจทำให้ยอดหนี้เปลี่ยนไปไม่ตรงกับที่เอกชนฟ้อง ทั้งนี้ หากดำเนินการครบถ้วนและมีข้อยุติการต่อสัมปทานจาก คณะรัฐมนตรีแล้ว ก็สามารถชำระหนี้ได้
สำหรับส่วนต่อขยายที่ 2 บันทึกมอบหมายยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากยังไม่ได้รับการอนุมัติงบประมาณจากสภากรุงเทพมหานคร ซึ่ง
กทม.ไม่ได้ทำนิติกรรมโดยตรงกับ เอกชน มีเพียงการทำบันทึกมอบหมายให้ KT เท่านั้น นอกจากนี้ ในบันทีกข้อตกลงมอบหมายข้อที่ 133 ยังระบุไว้ว่า ‘บันทึกข้อตกลงนี้ไม่มีผลทำให้บริษัท (KT) เป็นตัวแทนหรือลูกจ้างของกรุงทพมหานคร’ ซึ่งในส่วนนี้ต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามข้อบัญญัติของ กทม. และต้องผ่านการพิจารณาของสภา กทม.ด้วย
นายวิศณุ ย้ำว่า กทม.ไม่มีเจตนาที่จะชะลอการชำระหนี้ให้แก่บริษัทเอกชน แต่มีข้อสังเกต คือ บันทึกมอบหมายยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากลงนามมอบหมายในวันที่ 28 ก.ค.59 โดยที่ยังไม่ได้ทำโครงการเสนออนุมัติงบประมาณจากสภา กทม. ซึ่งในปี 2561 สำนักการจราจรและขนส่ง กทม.ได้เสนอขอจัดสรรงบประมาณในการชำระหนี้ค่าเดินรถเข้าที่ประชุมสภา กทม. ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2561 เพื่อขอจัดสรรงบประมาณโครงการติดตั้งระบบเดินรถและบริหารจัดการเดินรถระบบขนส่งมวลชนสายสีเขียว ระยะเวลาดำเนินการ 15 ปี (2561-2575) วงเงินรวม 31,988 ล้าน 490,000 บาท (เป็นเงินงบประมาณ กทม. 12,000 บาท และเงินนอกงบประมาณ 19,988 ล้าน 498,000 บาท)
ปี 2561 ตั้งงบประมาณจำนวน 1,000 ล้านบาท เสนอต่อสภา กทม. ได้พิจารณางบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2561 แต่โครงการดังกล่าวไม่ได้ถูกรับการพิจารณาและบรรจุอยู่ในร่างงบประมาณดังกล่าว
และเมื่อปี 2564 สำนักการจราจรและขนส่ง ได้เสนอขอจัดสรรงบประมาณในการชำระหนี้ค่าเดินรถเข้าที่ประชุมสภา กทม. โดยเสนอสำนักงบประมาณเพื่อขอจัดสรรงบประมาณในการชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 1 และส่วนต่อขยาย 2 จำนวนเงิน 9,246,748,339 บาท โดยได้จัดทำเป็นร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี งบประมาณพ.ศ.2564 (ฉบับที่ …) พ.ศ… เสนอสภากรุงเทพมหานคร
ที่ประชุมสภา กทม.เมื่อ 21 เม.ย.64 ได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ และมีมติไม่เห็นชอบให้กทม.จ่ายขาดเงินสะสม เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ ตามข้อ 12 แห่งข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง เงินสะสม(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2564 และสภา กทม. มีข้อเสนอให้ กทม. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล หรือให้ใช้วิธีให้เอกชนรับภาระและให้ประโยชน์ตอบแทนในรูปสัมปทานเดินรถ หากไม่สามารถดำเนินการตามข้อเสนอควรส่งโครงการดังกล่าวคืนให้ รฟม.
รองผู้ว่าฯ กทม. แถลงอีกว่า ขณะที่อยู่ระหว่างดำเนินการนั้น วันที่ 11 เม.ย.62 คสช. มีคำสั่งตามมาตรา 44 ที่ 3/2562 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งปันผลประโยชน์จากค่าโดยสาร เจรจากับผู้รับสัมปทานรายเดิม และจัดทำร่างสัญญาร่วมลงทุน พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินเป็นการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
วันที่ 20 ส.ค.62 ครม.รับทราบผลการเจรจาและร่างสัญญาและร่วมลงทุนโครงการฯและให้กระทรวงการคลังเสนอความเห็น
ระหว่างวันที่ 17 พ.ย.63-22 ก.พ.65 กทม. และกระทรวงมหาดไทย จัดเตรียมข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อประกอบการนำเสนอ ครม.
วันที่ 13 มิ.ย.65 กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือแจ้ง กทม. ขอทราบแนวทางการดำเนินโครงการเนื่องจากมี ผว. กทม. และสภา กทม. ชุดใหม่
วันที่ 3 พ.ย.65 ผู้ว่าฯ กทม. มีหนังสือตอบกลับมหาดไทย
1.เห็นพ้องกับนโยบาย Through Operation ให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและงานติดตั้งระบบการเดินรถ
2.เห็นควรที่จะเดินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน พ.ศ.2562
3.การหาข้อยุติของ ครม. ตามคำสั่ง คสช. จะทำให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินงาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: