กรุงเทพฯ : เสียงสะท้อนจากผู้ใช้งาน ‘สะพานลอยคนเดินข้ามหน้าโรงเรียนพหลโยธิน’ จุดเสี่ยงภัยอาชญากรรม รวมถึงปัญหาทุกด้านที่ชาวบ้านอยากให้แก้ไข 1 ใน 6 จุดอันตราย เขตดอนเมือง
ผู้สื่อข่าวแพลตฟอร์มข่าวชุมชน 77 ข่าวเด็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่เขตดอนเมือง แถวบริเวณโรงเรียนพหลโยธิน ซอยวิภาวดี-รังสิต 45 ถนนวิภาวดี-รังสิต โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สะพานลอยคนเดินข้าม ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ว่า สะพานลอยดังกล่าวค่อนข้างเสี่ยงอันตราย ต่อการเกิดปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ที่ลูกหลานจะต้องเดินขึ้นสะพานข้ามไปยังอีกฝั่ง เพื่อกลับบ้าน เนื่องจากผนังกันตกของสะพานมีความสูงและทึบ
จากการตรวจสอบพบว่า ผนังราวกันตก มีลักษณะก่ออิฐถือปูนฉาบปิดทึบ หากมองจากด้านล่างแทบมองไม่เห็นผู้คนที่เดินอยู่ด้านบน โดยเฉพาะเด็ก ๆ ชาวบ้านจึงหวั่นเกรงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมักมีพวกกลุ่มวัยรุ่นมามั่วสุม หรือพวกถ้ำมองมาเที่ยวคอยสอดส่องสายตา และลวนลามผู้หญิง รวมถึงคนจรจัด เร่ร่อน ที่ยึดพื้นที่บนสะพานลอยเป็นที่หลับนอนในเวลากลางคืนอีกด้วย
ชาวบ้านรายหนึ่งที่ใช้สะพานลอยคนเดินข้ามแห่งนี้เป็นประจำ เล่าว่า สะพานนี้เคยมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ แต่หลังจากที่พวกกลุ่มวัยรุ่นอาศัยเป็นที่ส่งยาเสพติด จึงหันและทำลายกล้องจนได้รับความเสียหาย กระทั่งเขตพื้นที่รับผิดชอบมาถอดออกไป นอกจากนี้ ช่วงที่ผ่านมา ยังเคยเกิดเหตุอันตรายขึ้นหลายครั้ง ชาวบ้านได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไม่สามารถตามจับตัวคนร้ายมาได้เลย เพราะไม่มีหลักฐาน ประกอบกับมีแสงสว่างค่อนข้างน้อย เนื่องจากตัวสะพานอยู่ใต้ทางด่วนโทลเวย์ ทำให้ยิ่งมืดและเปลี่ยวมากขึ้น ผู้คนจึงไม่ค่อยอยากจะใช้งาน แต่ก็จำเป็น เพราะไม่มีทางเลือกอื่น
ขณะที่น้อง ๆ นักเรียนที่ใช้งานสะพานแห่งนี้ สะท้อนปัญหาด้านอื่น ๆ มาด้วยเช่นกัน อย่างความกว้างของตัวบันไดขึ้น-ลงที่แคบ จนไม่สามารถเดินสวนกันได้ ทำให้รู้สึกอึดอัด ต้องแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง โดยการเลือกที่จะหยุดรอให้ผู้ที่ใช้งานเดินขึ้น-ลงกันจนหมดเสียก่อน ที่สำคัญอยากให้มีกล้องวงจรปิด เพื่อป้องปราม หรือหาตัวคนร้ายได้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ใช้สะพานเดินข้ามไป-มาทุกวัน เล่าถึงปัญหาที่ทำให้ในช่วงเวลากลางคืนมีความเสี่ยงมาก เนื่องจาก ไฟฟ้าส่องสว่างทั้ง 5 ดวง ใช้งานจริงได้เพียงแค่ 2 ดวงเท่านั้น บางคืนก็ไม่ติดเลย มืดไปทั้งสะพาน เวลาเดินข้ามจะต้องเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือแทน จึงจะสามารถมองเห็นทางได้ และอยากให้นำถุงขยะมาตั้งไว้เหมือนสะพานอื่น ๆ เพื่อให้ทิ้งกันเป็นที่เป็นทาง ไม่ทิ้งกันเกลื่อนกราดบนสะพานก่อให้เกิดความสกปรกอย่างทุกวันนี้ ทั้งนี้ ขอเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเขตดอนเมือง ปรับปรุงเรื่องแสงสว่างเป็นลำดับแรก รวมถึงให้ตำรวจคอยแวะเวียนมาสอดส่องตรวจสอบให้บ่อยครั้งมากขึ้นกว่าเดิม อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้นได้
“ขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเขตพื้นที่รับผิดชอบ ช่วยเข้ามาตรวจสอบแก้ไข เท่าที่จะสามารถทำได้ โดยเฉพาะเพิ่มแสงสว่างให้มากขึ้น หรือติดตั้งกล้องวงจรปิด อย่างน้อยหากเกิดเหตุอันตรายกับชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถมีหลักฐานติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายได้ ชาวบ้านก็จะมีความปลอดภัยอุ่นใจมากยิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่า บนสะพานลอยมีการติดตั้งป้ายไวนิลประชาสัมพันธ์ พร้อมตู้เขียว ‘จุดตรวจเทศกิจที่ 6’ และ รับเรื่องร้องทุกข์ ของฝ่ายเทศกิจ เขตดอนเมือง โดยป้ายดังกล่าวระบุข้อความ ‘จุดพื้นที่เฝ้าระวัง ดูแลรักษาความปลอดภัย’ Monitor and Security Aram ซึ่งบ่งบอกให้รับรู้ได้ว่า จุดนี้เป็นพื้นที่เสี่ยงอันตรายต่อประชาชนผู้ใช้สัญจรไปมาจริง
ทั้งนี้ จากการสอบถามจากเขตดอนเมือง ทราบว่า สะพานลอยคนเดินข้าม จุดบริเวณหน้าโรงเรียนพหลโยธินนี้ อยู่ในความรับผิดชอบของ ‘กรมทางหลวง’ แต่กรุงเทพมหานคร โดยเขตดอนเมือง ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานงานแก้ไขมาตลอด เนื่องจากประชาชนมักร้องเรียนไปทางเขต เพื่อให้แก้ไข จึงได้ตั้งจุดตรวจตู้เขียวไว้รับเรื่องร้องทุกข์ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจพื้นที่ รวมถึงประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมทางหลวง ในฐานะเจ้าของพื้นที่ และตำรวจท้องที่
สำหรับจุดเสี่ยงภัยด้านอาชญากรรม ในเขตดอนเมือง ที่ได้รับการร้องเรียนมี 6 จุด ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแล้วเป็นปัญหาในลักษณะเช่นเดียวกัน อย่างแสงสว่างไม่เพียงพอ หรือไฟฟ้าส่องสว่างเสีย ไม่ได้รับการปรับเปลี่ยนแก้ไข ไร้ตาวิเศษ (กล้องวงจรปิด) เป็นที่พักอาศัยของคนจร มักมีพวกถ้ำมองคอยแทะโลม ก่อเหตุลวนลามสุภาพสตรี รวมถึงเป็นที่มั่วสุม ก่อเหตุฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ และปัญหาด้านอื่น ๆ ได้แก่
1.บริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีการเคหะ ถนนกำแพงเพชร 6
2.บริเวณสะพานลอยหน้าตลาดใหม่ดอนเมือง
3.บริเวณสะพานลอยหน้าวัดดอนเมือง
4.บริเวณสะพานลอยปากทางเข้า หน้าโรงเรียนพหลโยธิน
5.บริเวณป้ายรถประจำทาง ปากซอยพหลโยธิน 71 ถนนพหลโยธิน
6.บริเวณป้ายรถประจำทางปากซอยพหลโยธิน 73 ถนนพหลโยธิน
จุดเสี่ยงภัยทั้ง 6 จุดนี้ ยังคงรอคอยการแก้ปัญหาจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อสร้างความอุ่นใจและปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนทุกคน เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา ดังคำสุภาษิตไทยที่ว่า ‘วัวหายแล้วล้อมคอก’ อีกต่อไป
