‘นอท-พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์‘ ซีอีโอ คนสำคัญของ ‘กองสลากพลัส’ นักธุรกิจหนุ่ม ที่แทบไม่มีใครไม่รู้จักในนาทีนี้ หลังจากผงาดเข้าพลิกวงการขายลอตเตอรี่ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แข่งกับหวยรัฐ ในราคา 80 บาท การเติบโตของธุรกิจแบบก้าวกระโดดโดยใช้ระยะเวลาเพียงสั้น ๆ แค่ 2 ปีเท่านั้น ธุรกิจและชื่อเสียงของ‘นอท’ ไปไกล (กว่าที่คิด) เป็นที่รู้จักของผู้คนในหลากหลายวงการ ขึ้นแท่นนักธุรกิจแถวหน้า เป็นที่จับจ้องของคนในสังคม รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะกรมสรรพากร
การพัฒนาระบบ การสร้างการรับรู้ รวมถึงแรงจูงใจ ที่ทำให้ลอตเตอรี่ออนไลน์ของ’นอท’ ขายดิบขายดี จนเส้นทางการเงินหลั่งไหลเข้ากองสลากพลัสอย่างมหาศาล จากยอดขายในปีแรกที่ 1,000 ล้านบาท ที่คิดว่าสูงแล้ว แต่ไม่ใช่แค่นั้น…
มาปีที่ 2 ยอดขายพุ่งสูงถึง 1,800 % แบบที่ใคร ๆ รู้แล้วก็ต้องอึ้ง จาก 1,000 ล้านบาท มาเป็น 18,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาแค่ 2 ปี จากเงินลงทุนก้อนแรก แค่ 2 ล้านบาท
ความสำเร็จนี้ ทำให้ ‘นอท’ ถึงขั้นทุ่มงบจัดงานเลี้ยงฉลอง ด้วยการปิด ‘พารากอนฮอลล์’ ฮอลล์ชื่อดัง ของศูนย์การค้าใจกลางกรุงเทพฯ อย่างสยามพารากอน ที่แน่นอนสนนราคาย่อมไม่เบา เพื่อเปิดประตูต่อยอดธุรกิจ และคืนกำไรให้ลูกค้า โดยเชิญเหล่าศิลปิน ดารา สื่อมวลชน มาร่วมงานและเป็นสักขีพยาน ป่าวประกาศออกไปว่า “กองสลากพลัส จะเป็นบริษัทชั้นนำเพื่อครองเป็นที่ 1 ของประเทศให้ได้ ต่อให้มีคู่แข่งทางธุรกิจสักกี่รายก็ตาม”
ยิ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในเส้นทางธุรกิจ ที่ ‘นอท’ ทำมา และกำลังจะก้าวต่อไป
สิ่งที่ ‘นอท’ เปรย ๆ มาให้ทราบแบบมีนัย ไม่อาจจะตีความไปเป็นแบบอื่นได้ ด้วยคำพูดที่ว่า “ตอนนี้ ผมไม่ได้ทำลอตเตอรี่ออนไลน์แล้ว ผมกำลังสร้างแบรนด์กองสลากพลัส กองสลากพลัสจะไม่ใช่ลอตเตอรี่ออนไลน์อีกต่อไป เรากำลังจะมีโปรเจ็กต์ใหม่”
แม้ซีอีโอหนุ่ม ของกองสลากพลัส ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่า สิ่งที่คิดจะทำนั้นคืออะไร แต่…. ชวนคิดชวนตีความได้หรือไม่ว่า จะเป็นการสร้าง ‘แบรนด์สลาก’ โดยการผลิตและออกสลากกินแบ่งเป็นของตัวเอง
ถ้าเป็นจริงตามนี้… อาจจะทำให้ ‘สลากกินแบ่ง’ ที่รัฐบาลเป็นผู้ออก อาจต้องร้อน ๆ หนาว ๆ ระส่ำระสาย เพราะดูเหมือนว่า ผู้นำการขายสลากออนไลน์ คือ กองสลากพลัส ที่ทุ่มไม่อั้น ถูกรางวัลก็ไม่ต้องไปขึ้นเงินเอง เพราะเขานำเงินไปให้ถึงที่ ภาษีก็ไม่ต้องเสีย ได้เงินแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยทุกบาททุกสตางค์ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งต่างจากการถูกรางวัลของรัฐอย่างสิ้นเชิง
ถึงจะมีคู่แข่งอย่าง หงษ์ทอง หรือมังกรฟ้า แต่ก็ไม่สามารถเข้ามาเบียดพื้นที่ทางการตลาดของกองสลากพลัสได้ จะเห็นได้ว่า ตลอดการเข้ามาทำธุรกิจ ‘นอท’ ได้ทุ่มงบประมาณมหาศาลในการประชาสัมพันธ์ กินพื้นที่สื่อเกือบทั้งหมดในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ป้ายโฆษณาอันโตเบ้อเริ่ม มีให้เห็นทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่เว้นแม้แต่บริการสาธารณะ อย่างรถไฟฟ้า รถเมล์ รถสองแถว รถท้องถิ่น เปิดทีวีก็ได้เห็นแต่หน้าผู้ชายตี๋ ๆ สวมเสื้อสีแดง ท่าที alert อยู่ตลอดเวลา
…แม้กระทั่งพรีเซ็นเตอร์ที่อยู่กับคู่แข่ง ฝ่ายตรงข้าม อย่างราชินีลูกทุ่ง ‘สุนารี ราชสีมา’ ก็ยังย้ายค่ายมาอยู่กับกองสลากพลัส หรือ สื่อไหนก็ตามที่นำเสนอข่าวของคู่แข่ง ก็จะถูกทุ่มงบฯ ชิงพื้นที่มาอยู่กับตัวเองทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ยังเกิดคำถามเมื่อ’นอท’ จะสร้าง ‘แบรนด์สลาก’ เป็นของตัวเอง ว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล รัฐเป็นคนออก ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหรือรัฐบาล จะยอมหรือ อีกทั้งต้องพิจารณาในทางกฎหมายว่า จะทำได้หรือไม่ ทั้งการออกสลากใบและออนไลน์ อาจจะอยู่ในหมวด ‘การพนัน’
ถ้าจะทำได้ รัฐต้องเป็นผู้อนุญาตและอาจจะต้องแก้ไขกฎหมาย เรื่องนี้คำตอบอยู่ที่… ผลประโยชน์ ว่าจะลงตัวหรือไม่
หรือสิ่งที่ทุกคนสงสัยว่า ‘นอท’ จากเด็กหนุ่มแมสเซนเจอร์ เงินเดือนเพียง 7,200 บาท แต่กลับเติบโตได้อย่างรวดเร็วนั้น อาจมีแบ็ก หรือผู้มีอิทธิพล ผู้มีสี หรือนักการเมืองระดับบิ๊ก ๆ คอยหนุนอยู่เบื้องหลังจริง ๆ และข่าวที่เราเห็น ๆ กันก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ ‘นอท’ โดนคดีต่าง ๆ การตรวจสอบภาษี อาจเป็นเพียง ‘ละครฉากหนึ่ง’ ที่ใครสร้างขึ้นมาให้เราได้ชมกัน
‘เนื้อหอม แสงไฟส่องหน้า ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ดังมาก ก็ดับไว’
ดูเหมือนว่าประเทศไทยกำลังปล่อยปละละเลย มอมเมาประชาชน ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทย มีความเชื่อและงมงายมากขึ้นทุกวี่ทุกวัน 2 ครั้ง ใน 1 เดือน จะเห็นว่าสื่อต่าง ๆ จะต้องนำเสนอเรื่องราวความเชื่องมงาย ให้คนไทยหันมาเฝ้าหน้าจอรอเสี่ยงดวง ตีเลขเด็ดจาก ปลีกล้วยออกเครือกลางลำต้น หมู 2 หัว จับงู ฯลฯ แม้แต่ข่าวเหตุบ้านการเมือง ก็จะจบด้วย ‘ตัวเลข’ เพื่อกระชากเรตติ้ง แย่งพื้นที่เรียกโฆษณา… สิ่งเหล่านี้มันกำลังจะบ่งบอกอะไร ประเทศไทย คนไทย ที่อยู่ในยุคดิจิตอล เทคโนโลยีก้าวล้ำ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่คนไทย กลับล้าหลังลงทุกวัน เพราะถูกปลูกฝัง ให้เชื่อ ให้งมงาย ด้วยความหวังที่ ‘อยากจะรวยทางลัด’ ด้วยความจนที่บีบคั้น ยิ่งออกหวยมาก หาซื้อได้ง่ายแค่ปลายนิ้วจิ้ม… ฝากไว้ให้ฉุกคิด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องก่อนหน้าได้ที่ลิงก็ด้านล่างนี้ :
https://www.77kaoded.com/news/kitdanai/2386207
