กรุงเทพฯ – สาธารณสุข พบ PM 2.5 ส่งผลกระทบสุขภาพประชาชนหนัก 3 สัปดาห์แรกเดือนมกราคม มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ 90,000 คน แนะ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทำห้องปลอดฝุ่น
นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยผลสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฝุ่น PM.2.5 ส่งผลกระทบให้มีผู้เจ็บป่วยจากโรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนัง และโรคตาอักเสบ เพิ่มขึ้น จากช่วงเดือนธันวาคม 2565 โดยผู้ที่เจ็บป่วยจากผลกระทบด้านสภาพอากาศ มีประมาณ 110,000 คนทั่วประเทศ หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 90,000 คนทั่วประเทศ กระทรวงสาธารณสุขจึงเป็นห่วงประชาชน เนื่องจากการสำรวจการป้องกันตัวเองผ่าน 4Health_PM2.5 พบว่า ร้อยละ 60 เป็นผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมถึงเด็กเล็ก ซึ่งกลุ่มเหล่านี้จะมีอาการน้อย เช่น เจ็บตา ตาแดง คันคอ น้ำมูกไหล ในส่วนของผู้ที่มีอาการรุนแรง มักมีอาการ เช่น หายใจลำบาก เหนื่อย แน่นหน้าอก แต่ยังไม่พบมากนัก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขให้คำแนะนำพี่น้องประชาชนมาตลอดว่า ค่าฝุ่นระดับไหน ควรดูแลตัวเองอย่างไร รวมถึงขอความร่วมมือผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หากอยู่ในพื้นที่สีส้มหรือสีแดงควรอยู่ที่บ้านจะปลอดภัยกว่า ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องทำงาน ก็อยากให้ทำงานจากบ้าน (Work From Home) เพื่อความปลอดภัยเช่นกัน และควรใส่หน้ากากอนามัยแบบ N95 หรือหน้ากากอนามัยซ้อน 2 ชั้น
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรดูแลรักษาอยู่เสมอ ถ้าพบอาการรุนแรงขึ้นให้ไปปรึกษาแพทย์ โดยกระทรวงสาธารณสุข มีสายด่วน 1478 หรือ แอปพลิเคชัน 4Health_PM2.5 ที่สามารถเข้ามาประเมินระดับความรุนแรงของอาการจากฝุ่น PM 2.5 ก่อนได้ ซึ่งจะให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวตามระดับอาการ ถ้าอาการรุนแรงจะมีลิงก์ไปที่คลินิกมลพิษออนไลน์
รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กว่า ถ้าอยู่ในพื้นที่สีส้มหรือสีแดง ต้องช่วยกันทำห้องปลอดฝุ่น รวมไปถึงห้องเรียนให้ปลอดฝุ่น เช่น ปิดหน้าต่างให้มิดชิด มีระบบพัดลมระบายอากาศ ถ้ามีเครื่องปรับอากาศต้องคอยทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศประจำทุกเดือน และที่สำคัญ แนะนำให้ทุกคนคอยตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกนอกบ้าน จากช่องทางต่าง ๆ เพื่อจะได้ปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง
