กรุงเทพฯ : ชาวสุขาภิบาล 5 เขตบางเขน หวั่น ฝุ่นและมลพิษจาก 4 แพล้นท์ปูนใจกลางชุมชน ส่งผลกระทบปัญหาสุขภาพระยะยาว ไม่กล้าเปิดปากพูดความจริง อาจมีผลกระทบด้านอื่น วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ปัญหา
นายบอส (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวแห่งหนึ่ง บนถนนสุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลังแพล้นท์ปูนขนาดใหญ่ 4 แห่ง เข้ามาตั้งอยู่ใจกลางชุมชน ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่มากมาย โดยเฉพาะปัญหาด้านสภาพแวดล้อมและสุขภาพ เนื่องจากฝุ่นที่เกิดจากกระบวนการผลิต
นายบอสให้ข้อมูลว่า ร้านเปิดมาหลายปี ก่อนที่แพล้นท์ปูนเข้ามาอยู่ ช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา ร้านซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามอีกฟากของถนน ห่างกันเพียงประมาณ 500 เมตร รวมถึงอาคารบ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ ต้องประสบปัญหาความสกปรกและมลพิษจากฝุ่น ที่ออกมาจากแพล้นท์ปูนดังกล่าว เพราะมีการผลิตกันทั้งวัน มีรถปูนวิ่งเข้า-ออกตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าสภาพแวดล้อมในพื้นที่แตกต่างจากที่อื่น ทั้งพื้นถนน บ้านเรือน ร้านค้า ต้นไม้ ยานพาหนะ เต็มไปด้วยฝุ่น รวมไปถึงปัญหาด้านเสียง และแรงสั่นสะเทือนของรถบรรทุกหนัก สามารถสัมผัสรับรู้ได้ว่า อาคารบ้านเรือนสั่นตามไปด้วยขณะที่รถวิ่งบนถนน อีกทั้งอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้คนในชุมชน รถที่วิ่งบนท้องถนนจะต้องคอยระมัดระวังรถบรรทุกปูนเข้า-ออก
ที่ผ่านมา มีรถน้ำ ซึ่งน่าจะเป็นของ กทม.มาคอยฉีดราดบนพื้นถนน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝุ่น แต่ส่วนตัวแล้วมองว่าไม่ได้ช่วยลดปริมาณฝุ่นลงได้ เพราะเวลาพื้นถนนแห้งฝุ่นก็ยังคงมีเหมือนเดิม แถมกลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากความสกปรกที่ปะปนมากับน้ำ บวกกับกลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นโคลนคล้ายน้ำคลอง
นายบอส บอกอีกว่า หลังแพล้นท์ปูนเข้ามาตั้ง ปริมาณฝุ่นในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า แพล้นท์ปูนขนาดใหญ่แบบนี้มาตั้งอยู่ใจกลางชุมชนได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่เป็นชุมชนเมือง มีทั้งหมู่บ้านขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงโรงเรียนในสังกัด กทม. กลายเป็นว่าชาวบ้านจะต้องจำใจ และอยู่ร่วมให้ได้กับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ร้านของตนเองก็เช่นกัน ต้องปรับสภาพให้ได้ โดยหมั่นทำความสะอาด ภาชนะทุกชิ้น อย่างจาน, ชาม, ช้อน วัถุดิบ ก็ต้องเก็บไว้อย่างมิดชิด ด้วยการใส่กล่อง คลุมผ้าอย่างดี เพื่อไม่ให้มีฝุ่นเกาะ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า แต่โชคดีที่ร้านมีแต่ลูกค้าประจำ ประกอบกับช่วงหลังโควิด 19 วิถีของคนก็เปลี่ยนไป ได้ยอดจากการขายออนไลน์มากขึ้นกว่ามานั่งที่ร้าน
“ส่วนปัญหาด้านสุขภาพในระยะยาว ไม่อาจรู้ได้ แต่อาศัยป้องกันโดยการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หน้าต่างบ้านก็ต้องปิดตาย เพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้า รวมถึงการใช้เครื่องกรองอากาศ เพื่อดูแลสุขภาพภายในบ้าน ก่อนหน้านี้ มีชาวบ้านร้องเรียนไปยังเขตบางเขนหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ นอกจากคำแนะนำเพียงแค่ ให้ชาวบ้านนำน้ำมาราดพื้นถนนเพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นเท่านั้น ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด อย่างไรก็ตาม หากใครอยากรู้ว่าที่นี่ฝุ่นมากขนาดไหน ลองนำรถไปล้างมาใหม่ ๆ แล้วมาจอดดู เพียงไม่ถึงครึ่งวัน ฝุ่นก็จะเกาะเต็มไปหมด” นายบอส เล่าด้วยสีหน้ากังวล
ด้านชาวบ้าน และพ่อค้า-แม่ค้าร้านอาหารในย่านดังกล่าว ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวว่า ฝุ่นมากจริง ๆ ต้องแก้ปัญหาด้วยการฉีดน้ำล้างทำความสะอาดพื้นบ้านทุกวัน ส่วนร้านค้าร้านอาหารก็ต้องหมั่นทำความสะอาด อุปกรณ์เครื่องครัว ภาชนะ และวัตถุดิบทุกอย่าง จะต้องคลุมผ้า ใส่กล่องรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี เรื่องของสุขภาพไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้างในอนาคต อาศัยเพียงการป้องกันโดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการแก้ไขปัญหาอย่างจริง ๆ จัง ๆ
จากการสำรวจพื้นที่โดยรอบแพล้นท์ปูน พบว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ ส่วนใหญ่มีฐานะปานกลาง เป็นชุมชนขนาดใหญ่ สภาพอากาศในพื้นที่ไม่ค่อยดีมากนัก บ้านเรือน ต้นไม้ ถนนหนทาง ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นดิน การเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงจากผู้คนโดยทั่วไปยังดูเป็นกังวล ไม่กล้าที่จะพูดคุยถึงผลกระทบมากนัก คงเป็นเพราะเกรงว่าอาจจะได้รับผลกระทบด้านอื่นตามมา เนื่องจากยังต้องอยู่อาศัยในพื้นที่ต่อไป
อ่านรายละเอียดของข่าวที่เกี่ยวเนื่องได้ที่ลิงกืด้านล่างนี้ :
