นครศรีธรรมราช : ผู้นำท้องถิ่น ต.ไชยมนตรี ทวงถามหลักเกณฑ์การพิจารณา ‘โครงการสร้างบ้าน’ ของนายกเหล่ากาชาด อาจมีการเมืองเข้าแทรกแซง เผย ยังมีชาวบ้านที่เดือดร้อนมากมาย ที่ควรจะได้รับ แนะ จะได้ทั้งผลงานและได้ทั้งบุญหากช่วยถูกคน
วันที่ 13 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวแพลตฟอร์มข่าวชุมชน 77 ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับข้อมูลเรื่องร้องเรียนมาจากผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่ง ใน ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) ถึงหลักเกณฑ์พิจารณาการให้ความช่วยเหลือ ตามโครงการ ‘ปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย’ ที่มี นางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้สนับสนุนโครงการก่อสร้างบ้านให้แก่ ชาวบ้านคนหนึ่งในพื้นที่ ม.4 ต.ไชยมนตรี ว่าเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ใช้หลักเกณฑ์ไหนพิจารณา เนื่องจากในพื้นที่ ต.ไชยมนตรี มีชาวบ้านผู้ยากไร้ คนจน รวมถึงผู้ป่วย คนชรา ผู้พิการ ทุพพลภาพ ที่เหมาะสมกับการให้ความช่วยเหลือมากกว่าบุคคลที่ได้รับการช่วยเหลือครั้งนี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.66 ได้มีข้อความแจ้งมาทางกลุ่มไลน์ของผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ให้ทราบ ว่า
“แจ้งผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่ทราบ เนื่องด้วย นางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช สนับสนุนการก่อสร้างบ้าน นาย……………………. (ขอสงวนชื่อ-นามสุกล) ม.4 ต.ไชยมนตรี ตามโครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย จึงแจ้งขอกำลังจิตรอาสาร่วมในการก่อสร้างในครั้งนี้ โดยแบ่งความรับผิดชอบในแต่ละวันเป็นหมู่ หมู่ละ 1 วัน เริ่มพรุ่งนี้ 31 มกราคม 2566 หมู่ที่ 5 รับผิดชอบ และถัดไปเป็นหมู่ที่ 1 2 3 และ 4 ต่อไปครับ”
โครงการฯ ดังกล่าวแล้วเสร็จ พร้อมทำพิธีส่งมอบบ้านกัน ในเช้าวันนี้ (13 มี.ค.66) โดยผู้ว่าฯ และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีส่งมอบ มีผู้นำชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก
ผู้นำท้องถิ่นรายนี้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า บุคคลที่ได้รับการช่วยเหลือ อดีตเคยรับราชการ เป็นช่างอยู่ใน อบต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช มาก่อน แต่ต้องถูกให้ออกเพราะมีปัญหาความขัดแย้งกับนายกฯ อบต. เคยมีภรรยาและลูกแต่แยกทางกัน ด้วยปัญหาส่วนตัว และนำที่ดินเดิมที่เคยอาศัยอยู่ไปจำนอง กระทั่งอดีตภรรยานำเงินไปไถ่ที่ดินกลับคืนมา แล้วให้ลูกครอบครองอยู่อาศัยแทน จึงเป็นสาเหตุทำให้ต้องประสบปัญหาด้านการดำรงชีพ ไร้ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย
“บุคคลคนนี้ ยังเป็นคนสนิทของ รองนายก อบต.ไชยมนตรี คนหนึ่ง ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งช่วงปลายปี 2564 เนื่องจากเป็นหัวคะแนนให้ และทราบมาว่าผู้ที่เสนอรายชื่อให้จังหวัดเพื่อพิจารณาช่วยเหลือ คือ ผู้บริหารคนหนึ่งของ อบต.ไชยมนตรี โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการเสนอรายชื่อกันเป็นการภายใน ที่ไม่เป็นธรรมแก่ผู้ด้อยโอกาสรายอื่น ทั้งที่ความเป็นจริง มีชาวบ้านที่ดูแล้วน่าจะเข้าข่ายการให้ความช่วยเหลือกว่าบุคคลนี้อีกมาก จึงมองว่าเป็นการช่วยเหลือที่ไม่ตรงเป้าหมาย และตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ประกอบกับ ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่ได้เป็นผู้พิการ” ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่รายหนึ่ง กล่าวยืนยัน
ขณะที่ผู้นำท้องถิ่นอีกราย ให้ข้อมูลในทิศทางเดียวกันว่า ไม่เคยทราบตัวโครงการดังกล่าวมาก่อน มาทราบอีกทีเมื่อมีการร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ รวมถึงจิตอาสาในพื้นที่ เข้าสนับสนุนและอำนวยความสะดวกตลอดช่วงเวลาการดำเนินการก่อสร้าง ส่วนเรื่องข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือนั้น ยืนยันไปในทิศทางเดียวกันกับผู้นำท้องถิ่นรายแรก โดยเฉพาะเรื่องการด้อยโอกาส ส่วนที่ว่าผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ เป็นคนพิการนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ขณะเดียวกัน การเข้ารับตำแหน่งและบริหารงานของนายก อบต. พร้อมคณะ ในพื้นที่ ต.ไชยมนตรี ทั้ง 5 หมู่บ้านนั้น กำลังเป็นที่จับตามองของชาวบ้านอย่างมาก เนื่องจากตั้งแต่ได้เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 64 พื้นที่ไม่ค่อยได้รับการพัฒนาอย่างที่หาเสียงไว้ ในทางตรงกันข้าม ชาวบ้านเริ่มมีปฏิกริยาต่อต้าน จับกลุ่มพูดคุยกันตามร้านน้ำชา-กาแฟ หลังทีมบริหารท้องถิ่นทีมนี้เข้ามาบริหารงาน ซึ่งไม่มีผลงานใด ๆ ปรากฎ แต่กลับไปทำหน้าที่ที่ไม่ควรจะทำ เช่น เป็นพิธีกรงานทางศาสนา (พุทธ) มัคทายก โฆษกตามงานบุญ งานบวช งานอัปมงคล ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวนับถือศาสนาอิสลาม
ผู้สื่อข่าวยังได้รับการร้องเรียน ถึงการสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้าน จากการทำหน้าที่ ‘ผู้ประกาศเสียงตามสาย’ ของหมู่บ้านทุกวัน วันละ 3 เวลา โดยเปิดเพลงเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งหมู่บ้าน แถมยังประกาศให้ชาวบ้านขอเพลง ราวกับเป็นดีเจทางคลื่นวิทยุ จนได้รับฉายาว่า ‘ดีเจประจำตำบล’ ไปแล้ว ล่าสุด เสียงตามสายที่เคยเปิดวันละ 3 เวลา ได้ปรับเปลี่ยนเหลือ 2 เวลา หลังมีเสียงบ่นมาจากชาวบ้านว่า เสียงดังรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีลูกเล็กเด็กแดง มักอยู่กันไม่เป็นสุข กระทั่งในพื้นที่ หมู่ 2 ทราบมาว่า วัยรุ่นถึงกับใช้หนังสติ๊กยิงลำโพงเสียงตามสายจนเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้
นอกจากนี้ ในพื้นที่ขณะนี้ ยังมีปัญหาเรื่องเงินกองทุนวันละบาท ทราบมาว่าเงินที่ชาวบ้านสะสมกันไว้ร่วม 2 แสนบาทนั้นหายไป ซึ่งอยู่ระหว่างการทวงถามและตรวจสอบไปยัง อบต.ที่เป็นผู้รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ผู้นำท้องถิ่นที่ให้ข้อมูล ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะขัดขวาง หรือต่อต้านการให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน แต่อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ในจังหวัด ได้พิจารณาทบทวนหรือตรวจสอบทุกอย่างให้ถี่ถ้วนในครั้งต่อ ๆ ไป แม้ไม่ได้เป็นการนำงบประมาณของรัฐเข้ามาใช้จ่ายช่วยเหลือก็ตาม แต่เพราะต้องการให้เข้าถึงความยากลำบากของชาวบ้านอย่างแท้จริง ไม่ผิดเป้าหมาย ตรงตามวัตถุประสงค์ แถมได้รับบุญกุศลอย่างเต็มเปี่ยม รวมไปถึงเป็นการตัดช่องทางการเข้ามาแทรกแซงของการเมือง
ทั้งนี้ เมื่อเช้าที่ผ่านมา นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช และประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เป็นประธานส่งมอบบ้านและร่วมบริจาคเงิน พร้อมของใช้จำเป็นในครัวเรือนตามโครงการ ‘มอบบ้านปันสุข พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ยากไร้ โดยไม่ใช้งบรัฐ’ ให้แก่ นายทัตเทพ ยิ่งคำนึง อายุ 62 ปี ที่ถูกอ้างว่า เป็นผู้สูงอายุพิการด้านการเคลื่อนไหว โดยมี นายสุเทพ แก้วประดิษฐ์ นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช, นายประธาน เวชประสิทธิ์ นายก อบต.ไชยมนตรี, หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และภาคเอกชน ผู้มีจิตศรัทธา ที่ร่วมสนับสนุนงบประมาณ รวมไปถึงชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมเป็นสักขีพยาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: