กรุงเทพฯ – ‘พล.อ.ประวิตร’ โชว์เหนือ ประกาศ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามความยากจน เปิดขุนพล 400 เขต ชู นโยบายแก้ไขปัญหาปากท้อง ฟื้นฟูเศรษฐกิจสู่โอกาสใหม่ ทำได้ทันที ด้วยนโยบาย 3 เร่งด่วน 8 เร่งรัด
วันที่ 30 มีนาคม 2566 ที่บางกอก อารีน่า เขตหนองจอก กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมดูแลการเลือกตั้ง ส.ส.กทม.และแกนนำภาค ร่วมกิจกรรม เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ และแบบบัญชีรายชื่อ พร้อมเปิดนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ที่จะนำไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ทั้งทางด้านสวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน มั่นใจได้ว่าทุกนโยบายพร้อมทำได้ทันที เมื่อได้เป็นรัฐบาล ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย ได้มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ที่ยั่งยืน
โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวความรู้สึกบนเวทีว่า วันนี้ตนเองรู้สึก อบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง การเลือกตั้งในครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐ พร้อมแล้วที่จะเข้ามารับใช้ประชาชน อยากจะสื่อสารให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทราบว่าคนไทยทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่น้องร่วมชาติ ที่ผ่านมา ประเทศของเราพัฒนาได้ยาก เพราะความขัดแย้ง และความแตกแยก จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมใจกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้วยความรัก ความเข้าใจเห็นอกเห็นใจ ซึ่งกันและกัน
ข่าวน่าสนใจ:
- มทบ.32 ลำปาง มอบผ้าห่มคลายหนาวชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง
- สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม จัดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 21
- “น้องขวัญ” ดร.ศุภพานี โพธิ์ ปราศรัยอ้อนคะแนนชาวบ้านนาจอก
- ตรัง ทวีศักดิ์ สงชู ผู้สมัครนายกอบจ.ตรังเบอร์ 3 ชูแผนชุมชนมีชีวิตพร้อมพัฒนาท้องถิ่น
พรรคพลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายออกสู่สายตาประชาชนมากมายที่ได้รับชมวีดิทัศน์บนเวที จากทีมเศรษฐกิจที่คิดมานำเสนอ โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้ เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของประชาชนทุกคน ที่จะให้พรรคใดมาบริหารประเทศ หากการเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนมาเป็นที่หนึ่ง ก็จะสามารถจัดตั้งรัฐบาล พร้อมกับขับเคลื่อนนโยบายที่ให้ไว้ได้ในทันที ไม่ว่าจะเป็นนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท ต่อเดือน การลดราคาน้ำมัน ลดราคาแก๊ส และลดค่าไฟฟ้า การดูแลคนไทยทุกช่วงวัย ทั้งเบี้ยประชาชน ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป มารดาที่ตั้งท้องตั้งแต่เดือนที่ 5 จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจนถึงวันคลอด และดูแลทารกหลังคลอด จนถึง 6 ขวบ นโยบายเรื่องน้ำ มีเราต้องไม่มีแล้ง โดยจะพัฒนาแหล่งน้ำ ระบบชลประทานแก้ปัญหา น้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตรส่งเสริม พร้อมย้ำว่ามีเราจะไม่มีแล้งอีกต่อไป รวมถึงส่งเสริมสิทธิที่ดินทำกิน ถ้ามีที่ทำกิน จะไม่จน จะก้าวข้ามความยากจนได้ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างงาน สร้างรายได้ ยกระดับการศึกษา เศรษฐกิจฐานรากภาคอุตสาหกรรม การคมนาคม และนโยบายอื่น ๆ อีกมากมาย
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหายาเสพติด ทั้งการป้องกันปราบปราม และบำบัดฟื้นฟูอย่างจริงจัง เราจะปราบปรามผู้มีอิทธิพล อาชญากรรมข้ามชาติ การฉ้อโกงออนไลน์ แชร์ลูกโซ่ และหนี้นอกระบบ เราจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เราคือครอบครัวเดียวกัน เราจะรักสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียว
“ผมพร้อม ที่จะประสานประโยชน์ กับทุกฝ่ายพร้อมที่จะนำ ความรัก ความสามัคคีมาสู่ ประเทศชาติ ของเราคนไทย ต้องรักกันสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างความสงบสุข ความเจริญรุ่งเรืองให้กับ ประเทศชาติ และประชาชน เมื่อเราก้าวข้ามความขัดแย้งได้ เราก็จะมีพลัง ที่จะก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน ขอให้เชื่อมั่นผม เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครฯ ทั้ง 400 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมขอประกาศกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่า พวกเราทำได้ และพร้อมแล้วที่จะรับใช้ประชาชน พี่น้องครับวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. นี้ โปรดกาบัตรเลือกพลังประชารัฐ ทั้ง 2 ใบ เลือกทั้งคน เลือกทั้งพรรค เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง และก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
นอกจากนี้ ภายในงานพรรคพลังประชารัฐ ได้นำเสนอนโยบายที่จะมุ่งฟื้นเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาครบทุกมิติ ให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วย ‘นโยบาย 3 เร่งด่วน 8 เร่งรัด’ ประกอบด้วย
1. แก้หนี้ประชาชน ผู้ประกอบการ ให้เบ็ดเสร็จ เติมทุนด้วยวิธีใหม่ ควบคู่สร้างโอกาสใหม่ โดยทำทันที
2. ดูแลสวัสดิการ เสริมทักษะ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
3. ยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย
และ ‘8 นโยบายเร่งรัด’ วางรากฐานเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย
1. ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมภาคการเกษตร วิสาหกิจชุมชนเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว
2. ยกเครื่องภาคอุตสาหกรรมเดิม สู่เศรษฐกิจใหม่ในอุตสาหกรรม S-curve เพื่อขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจ BCG
3. เร่งพัฒนาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ ทั้ง อีอีซี และขยายพื้นที่ยุทธศาสตร์ใหม่
4. ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทุกระบบ ทั้งถนน ราง น้ำ และอากาศ รวมถึงพัฒนาโครงเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ การต่อยอดพร้อมเพย์ และเป๋าตังค์ ให้คนไทยเข้าสู่ Digital Economy อย่างแท้จริง
5. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งระดับ ปวช. ปวส. ให้เรียนฟรีมีงานทำ พัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมแหล่งงาน เพื่อสร้างรายได้ระหว่างเรียน ส่วนแรงงานเดิมจะส่งเสริมเข้าโปรแกรมเพิ่มทักษะให้สอดรับกับอุตสาหกรรมสมัยใหม่
6. ปฎิรูประบบราชการ แก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เพื่อส่งเสริมให้เกิดเอสเอ็มอีที่มีความเข้มแข็ง
7. ปฏิรูประบบงบประมาณ กระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น สู่การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อเข้าสู่งบประมาณสมดุลในระยะยาว เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง ที่ตอบสนองความต้องการของพื้นที่ได้อย่างตรงจุด และ
8. ต่อต้านคอร์รัปชั่นเต็มรูปแบบ สร้างระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เพิ่มโทษนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชันเป็นสองเท่า รวมถึงมีเทคโนโลยีบล็อคเชนที่จะนำมาใช้ในโครงการประมูลภาครัฐขนาดใหญ่
ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงานได้มีประชาชนที่เดินทางมาจากทุกภาค และในกทม.เต็มความจุอัฒจันทร์ โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ต่างเดินทักทาย และถ่ายรูปกับประชาชนที่ถือป้ายไฟส่งเสียงต้อนรับว่าที่ผู้สมัครอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมีศิลปินดารา กลุ่มนางงาม,นายแบบ,อินฟลูเอนเซอร์จากหลากหลายอาชีพ, LGBTQ, กลุ่มนักแข่งเกมส์ อีสปอร์ต มาร่วมรับฟังนโยบายของพรรค พปชร.ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: