กรุงเทพฯ – พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ‘มาร์ค พิตบูล’ แคนดิเดตนายกฯ ประกาศกร้าว หากเป็น ส.ส.ดันโทษประหารคนโกงชาติ พร้อม ชู 5 นโยบายพรรค มุ่งปราบโกง ดันโทษประหาร วอนสื่อขอพื้นที่ให้พรรคเล็กบ้าง เพื่ออนาคตประเทศไทย
วันที่ 10 เมษายน 2566 นายประเสริฐ อภิปุญญา หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พร้อมด้วย นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิตบูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค คนดังในโลกออนไลน์ ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว แคนดิเดตนายกฯ และประกาศนโยบายพรรค 5 ด้านหลัก ๆ อย่างเป็นทางการ โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่งร่วมให้กำลังใจ
นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ไม่ใช่เป็นพรรคเฉพาะกิจ ก่อตั้งมามากกว่า 10 ปีแล้ว เคยเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคอนาคตไทย ก่อนกลับมาใช้ชื่อเดิม และขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมืองมาตลอด เพื่อแสดงให้เห็นว่า พรรคเป็นสถาบันองค์กรสาธารณะ ต้องทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติให้ได้มากที่สุด ไม่มุ่งเน้นเงินทุน และให้อิสระแก่สมาชิกพรรค
ที่ผ่านมา พรรคมุ่งเน้นขับเคลื่อนเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้เป็นหลัก มาถึงยุคปัจจุบัน ต้องต่อยอดในด้านอื่น ๆ ให้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การทุจริตมิชอบ สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ส่งตัวผู้สมัครในระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 3 เขต คือ นายสมใจ นวลนุ่น ผู้สมัครหมายเลข 1 เขต 2 จ.กระบี่, นายวินัย ผดุงเจริญ หมายเลข 10 เขต 1 จ.ฉะเชิงเทรา เเละนายจิรจิตต์ นามจันดี หมายเลข 13 เขต 5 จ.ขอนแก่น ส่วนผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ 5 คน ประกอบด้วย นายณัชพล สุพัฒนะ (มาร์ค พิตบูล), นายประเสริฐ อภิปุญญา (หัวหน้าพรรค), นายประสพ โกมลมาศ, พล.ต.ต.สุริยะ อยู่เย็น และนายสุขุมาลย์ คุ้มรอด (เรียงตามลำดับ) จำนวนผู้สมัครที่ส่งน้อย หมายถึง การหวังผล ไม่ได้หว่านไปทั่ว การตัดสินใจเลือก นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิตบูล มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนั้น สืบเนื่องจากได้เห็นอุดมการณ์แนวความคิดที่ดี ไม่เคยเปลี่ยนแปลง จึงทาบทามให้เข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมืองของพรรค
“สิ่งสำคัญที่อยากจะแสดงให้ประชาชนได้เห็น ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง อาจทำได้มากกว่าการที่อยู่เฉย ๆ 4 ปีด้วยซ้ำไป ถึงแม้ว่าจะเป็นระยะเวลาเพียงสั้น ๆ 30 วันหลังจากวันรับสมัคร ไปจนถึงวันลงคะแนน หากเราได้มีโอกาสได้เข้าไปทำงาน เราจะพิสูจน์ให้เห็น อยากให้พี่น้องทุกคนได้ติดตามพรรครักษ์ผืนป่าฯ ของเราต่อไป” นายประเสริฐ อภิปุญญา กล่าว
ด้าน นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ ‘มาร์ค พิทบูล’ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย หมายเลข 49 ระบุว่า สิ่งแรกที่พรรคจะทำ คือ การสร้างความแตกต่าง จะต้องเป็นพรรคการเมืองของประชาชน นโยบายของพรรครักษ์ผืนป่าฯ สามารถใช้ได้ตลอดชีวิต ประกอบด้วย 5 ด้าน ดังนี้
1.ปราบโกง ถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ อยากจะให้ทุกพรรคการเมืองมาปฏิญาณร่วมกัน ผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ‘โกง = ประหาร’ พร้อมผลักดันกฎหมายให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน เน้นการทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากคนโกงหรือถูกโกง เพราะเงิน 30-40 เปอร์เซ็นต์ที่หายไปจากการโกง เป็นเงินจำนวนมหาศาล หากปัญหานี้หมดไป จะทำให้ประเทศไทยและเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นทันที ปราบโกงได้ทุกอย่างก็จะดีตาม
2.การปฏิรูประบบราชการ สัมพันธ์กับเรื่องการปราบโกง เพราะประเทศไม่เคยได้พัฒนาคน ข้าราชการถึงโกงป่า กินถนน กันเป็นว่าเล่น พร้อมลดหน่วยงานราชการที่ซ้ำซ้อน
3.การสร้างงานสร้างอาชีพ ไม่ใช่แจกเงิน “อยากได้เงินต้องทำงาน อยากได้สวัสดิการต้องเสียภาษี” หากคนมีงานทำ ก็จะมีรายได้ มีกำลังซื้อ เศรษฐกิจก็จะดีตาม ภาษีก็เก็บได้มากขึ้น จากปัจจุบัน มีคนไทยเสียภาษีเพียง 6 ล้านคน การแจกเงินเป็นกำลังซื้อเทียม กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีก็จริง แต่เงินไหลเข้ากระเป๋านายทุน
4.การปฏิรูปการศึกษา ให้คนไทยใช้เวลาเรียนให้น้อยที่สุด แต่สามารถทำมาหากินให้ไวที่สุด ส่งเสริมวิชาชีพเฉพาะให้เกิด นวัตกรรม พัฒนาสถาบันอาชีวะให้เก่งอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะด้านภาษา เพื่อสามารถทำงานกับต่างประเทศได้ พัฒนาสายอาชีวศึกษาให้โกอินเตอร์มากยิ่งขึ้น และมีคุณภาพชีวิตการทำงานที่ดีขึ้นด้วยภาษาต่างชาติ
5.คืนความเป็นธรรมให้สังคม กฎหมายต้องเท่าเทียม ไม่ใช่แบ่งมาตรฐานระหว่างคนจนกับความยุติธรรมคือข้อเท็จจริง คนจนไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ คนจนไม่มีเงินไปจ้างทนาย แตกต่างกับคนรวยจ้างทนายเก่ง ๆ วิ่งเต้นคดีให้รอดได้
นายณัชพล กล่าวอีกว่า พรรครักษ์ผืนป่าฯ มีเป้าหมายเพื่อเป็นหนึ่งเสียงสำคัญ ที่จะพูดความจริง เป็นตัวแทนของประชาชนทุกคน ปกป้องสิทธิของประชาชน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจสีเขียว เน้นการแจกอาชีพ ให้มีที่ดินทำกินและช่วยกันดูแลรักษาผืนป่า ปลูกป่าให้มีพื้นที่สีเขียว เน้นการพัฒนาพื้นที่ให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจชุมชน ประเทศไทยมีที่ดินมากมาย แต่ประชาชนกลับไม่มีที่ดินทำกิน พรรคมุ่งเน้นให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในพื้นที่ป่า เพื่อไม่ทำให้เกิดการเผา ทำลายป่า แต่ให้ประชาชนอาศัยและทำมาหากินอยู่กับป่า เพื่อกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของ จะได้ดูแลและปกป้องพื้นที่ทำกิน
นายณัชพล หรือ มาร์ค พิตบูล กล่าวอีกว่า จะขอโอกาสเข้าไปทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ และให้ ส.ส.ทำงาน ไม่ใช่ใครสั่งให้ยกมือก็ยก อะไรที่ไม่ดีต้องคัดค้าน สิ่งที่ดีก็ต้องสนับสนุน ไม่ใช่ปัดตก ไม่ใช่ประท้วงเพื่อเอาชนะกัน นอกจากนี้ ยังพร้อมที่จะร่วมงานกับทุกพรรค แต่ต้องมาจากความเห็นของประชาชน เพราะได้มาจากประชาชน อยู่ ๆ จะไปร่วมรัฐบาลได้อย่างไร หากมีโอกาสเข้าร่วมทำงานก็ยินดี แต่ย้ำว่าจะไม่เข้าไปเพื่อยกมืออย่างเดียวอย่างเด็ดขาด เพราะไม่ต้องการจะกินกล้วย ไม่ได้ต้องการเข้ามาเล่นการเมืองเพื่อแสวงหาความมั่งคั่ง แต่ต้องการทำงาน สำหรับกระทรวงที่ต้องการเข้าไปดุแลมากที่สุด แน่นอนว่า คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางของพรรค
เมื่อถามถึงนโยบาย ปราบโกง=ประหาร หากได้เข้าไปทำงาน แล้วเกิดมีเรื่องคดีการทุจริตการโกงขึ้นมา จะยอมรับโทษประหารนั้นเองหรือไม่ มาร์ค พิตบูล กล่าวว่าไม่เคยผิดคำพูดกับประชาชน ชีวิตที่เหลือนี้ขอทำให้ประเทศชาติ ยอมรับการประหารตัวเองลำบากและยาก แต่วันนี้อยากให้ทุกคนมาช่วยกันผลักดันเรื่องการปราบโกง ให้เป็นวาระแห่งชาติกันให้ได้ ขอท้าให้นักการเมืองทุกคน มาลงชื่อร่วมกันหากโกงโทษคือประหารอย่างเดียว จะมีใครมากล้าลงชื่อหรือไม่ แต่ตนเองจะลงเป็นคนแรก
