กรุงเทพฯ – ‘พรรคเพื่อไทย’ ขนทัพใหญ่ขึ้นเวทีปราศรัย เขตดอนเมือง เวทีสุดท้ายของ ‘อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร’ ก่อนลาคลอด ชวนคนดอนเมือง ร่วมปิดสวิตช์ ส.ว. และ 3 ป. ด้าน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ย้ำ ทุกนโยบายพรรค ทำได้จริง พร้อมเป็นรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจประเทศให้ดีขึ้น
วันที่ 23 เมษายน 2566 น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร พร้อมด้วย นายเศรษฐา ทวีสิน 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย นำทัพขุนพลขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่กรุงเทพฯ ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ อาทิ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมือง กทม., นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายจาตุรนต์ ฉายแสง และผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ดอนเมือง พบปะประชาชน บริเวณตลาดโอโซนวัน ซึ่งถือเป็นเวทีแรกในรอบหลายสัปดาห์ ที่แคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 2 คน ได้มาขึ้นเวทีด้วยกันอีกครั้ง และเป็นเวทีสุดท้ายก่อนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะลาคลอด ท่ามกลางการตอบรับ เสียงเชียร์ และกำลังใจ จากชาวดอนเมืองอย่างท่วมท้น พร้อมทั้งคนในครอบครัว อย่าง นายปิฎก สุขสวัสดิ์ (สามี น.ส.แพทองธาร), นางพิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ (พี่สาว) และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ (พี่เขย)
น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทย เป็นเวลากว่า 22 ปี ที่ทุกคนได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตย หาเสียงด้วยนโยบายแก้ไขปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน นับเป็นการเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ ที่นโยบายของพรรคการเมืองไทย จะเปลี่ยนชีวิตของพี่น้อง ให้เป็น “ประชาธิปไตยที่กินได้” และมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างถาวร เพราะความสำเร็จตลอด 22 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนเชื่อใจและสนับสนุนพรรค สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่า หากชนะการเลือกตั้งจนได้จัดตั้งรัฐบาล จะทำทุกนโยบายให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องหลุดพ้นจากความยากลำบาก
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยต่อสู้กับความยากจนเสมอมา จากการ ‘ลดรายได้ เพิ่มรายจ่าย ขยายโอกาส’ ให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปากอย่างมั่นคง ทุกครั้งที่ได้เข้ามาเป็นรัฐบา มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างชีวิตที่ดีให้ประชาชน แต่ต้องเจออุปสรรคระหว่างทาง คือ การต่อสู้กับอำนาจนอกระบบ
“เราจัดตั้งรัฐบาลด้วยปลายปากกาของประชาชน แต่อำนาจของประชาชนถูกหักทิ้งด้วยปลายกระบอกปืน การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลด้วยปลายปากกาของประชาชน ที่จะวาดความหวัง วาดความฝัน เพื่ออนาคตของประเทศไทยด้วยกันอีกครั้ง การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นศึกที่ยิ่งใหญ่ เราต้องปิดสวิตช์ ส.ว. และ 3 ป. แม้เราเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีแต้มต่อ มีแต่พี่น้องประชาชนเท่านั้น ที่จะอนุญาตให้เราเข้าไปเปลี่ยนชีวิตของพี่น้องประชาชนได้ เรายังคงยืนหยัดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน แม้จะต้องเผชิญกับศัตรูทางการเมืองมากแค่ไหนก็ตาม” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวถึงนโยบายต่าง ๆ เพื่อเน้นย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ และเป็นประโยชน์แก่ประชาชน ประเทศชาติ อย่างนโยบายการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว รักษาที่ไหนก็ได้ รวมไปถึงนโยบายค่าแรง 600 บาทภายใน 4 ปี โดยปีแรกจะปรับค่าแรงเป็น 400 บาททันที เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท พร้อมเติมรายได้ให้เต็ม 20,000 บาทต่อครอบครัว นโยบายสมัครใจเกณฑ์ทหารโดยไม่ต้องถูกบังคับ เดินหน้าปราบปรามปัญหายาเสพติดให้หมดไป บำบัดผู้เสพเป็นผู้ป่วย การเดินหน้ายึดทรัพย์ผู้กระทำผิดอย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมย้ำนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะถึงกระเป๋าของประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ให้ประกอบอาชีพตั้งตัวได้ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากการนำไปจับจ่ายร้านค้าในชุมชนอีกด้วย
