กรุงเทพฯ – พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ย้ำ! จุดยืน ‘ปราบโกง’ กำจัดเนื้อร้ายแผ่นดิน ‘คอรัปชั่น’ ต้อง ‘ประหาร’ มาร์ค พิตบูล ยำเละ นโยบายประชานิยม แจกเงินหมื่น อัดฉีดบำนาญประชาชน หวังโกยคะแนน เป็นรัฐบาล สุดท้ายถอนทุนคืน ขอเข้าทำหน้าที่ตรวจสอบ คืนความเป็นธรรมให้สังคม
วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 นายประเสริฐ อภิปุญญา หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และนายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิตบูล ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย หมายเลข 49 ร่วมแถลงข่าว ถึงทิศทางและนโยบายพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง โดยประกาศปักธงเรื่อง ‘ปราบโกง’ เป็นยุทธศาสตร์หลัก ภายใต้สโลแกนพรรค ‘ซื่อสัตย์ กัดไม่ปล่อย ถอยไม่เป็น หมดเวลาทุจริต คอรัปชั่น และ โกง = ประหาร’ หลังลงพื้นที่ ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน
ข่าวน่าสนใจ:
- ปิดตำนานนักเขียน "ตรี อภิรุม" ศิลปินแห่งชาติฯ เจ้าของผลงาน "นาคี"
- "เบิร์ด ธงไชย" ศิลปินแห่งชาติ ร่วมสืบสานนาฏศิลป์สยาม ชมการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
โดยนายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิตบูล ชี้ว่า ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากงบประมาณของประเทศไทย ถูกทุจริตไป 30-40 % หากปราบปรามคอรัปชั่นได้ เงินของประเทศจะเหลือมหาศาล เศรษฐกิจจะดีขึ้นชนิดติดจรวด นโยบาย ‘ปราบโกง’ ของพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย จะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากคนโกง โดยให้ทุกพรรคลงปฏิญาณร่วมกัน ในนโยบายการปราบโกง พร้อมผลักดันกฎหมาย ปราบปรามคอรัปชั่น ให้ดำเนินคดีแล้วเสร็จภายใน 3 ปี ผิดจริงโทษประหารชีวิต
จากการลงพื้นที่ติดตามปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ซึ่งพรรคการเมืองอื่น ๆ ต่างงัดสารพัดกลยุทธ์มาใช้หาเสียง เพื่อหวังกอบโกยคะแนนนิยมจากประชาชนให้ได้มากที่สุด แต่พรรครักษ์ผืนป่าฯ มองว่า ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ ล่าสุด ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน หมู่ 5 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เกี่ยวกับปัญหามลพิษและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จากบ่อขยะเชิงเขาทอง จึงนำชาวบ้านที่เดือดร้อนไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด หรือ ป.ป.จ. เพื่อให้ตรวจสอบโครงการบริหารจัดการขยะของ อปท.ในพื้นที่ หากยังไม่มีความคืบหน้า จะทวงถามไปยัง ป.ป.ช.ชุดใหญ่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังปัญหาที่หาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง ที่กลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน ร้องเรียนเรื่องระบบนิเวศน์ใต้ท้องทะเลระยอง ว่า สัตว์ทะเลมีปริมาณลดลง ตนเองได้ดำน้ำลงไปดู พบว่าผิวทรายใต้น้ำมีสีคล้ำดำ และเหนียวผิดจากทรายปกติทั่วไป สาเหตุน่าจะเกิดจากปฏิกริยาทางเคมี ที่มีการใช้สารกำจัดคราบน้ำมัน แล้วตกตะกอนลงใต้ทะเล กระทั่ง นำไปสู่การประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ร่วมกับชาวบ้าน เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่พรรครักษ์ผืนป่าฯ มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อย่างที่ไม่มีพรรคการเมืองใดคิดทำ
“แม้ว่าเราจะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก ยังไม่เคยมี ส.ส.ในสภาฯ อนาคตจะมีหรือไม่มีไม่สำคัญ แต่พรรครักษ์ผืนป่าฯ จะเดินหน้าปราบโกงต่อไป พร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วประเทศ ถ้าประชาชนเห็นว่า การทุจริตคอรัปชั่นควรจะหมดไปจากประเทศไทย ก็ขอให้ร่วมกันสนับสนุน พรรครักษ์ผืนป่าฯ ให้ได้มี ส.ส.ไปนั่งในสภาฯ เพื่อขับเคลื่อนเดินหน้านโยบาย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้คาดหวังจะได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขอให้ได้เข้าไปทำหน้าที่ตรวจสอบก็เพียงพอ”
‘มาร์ค พิตบูล’ วิจารณ์ยับ พรรคการเมืองทุนหนา โปรยนโยบายประชานิยม หาเสียงหวังถอนทุนคืน
นายณัชพล กล่าวอีกว่า อยากขอให้ทุกพรรคการเมือง ที่หาเสียงบอกต่อพี่น้องประชาชนว่า จะไม่โกง และขอให้ทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหญ่ทุนหนา มาลงนามปฏิญญาร่วมกัน ว่า หากทุจริตคอรัปชั่น จะต้องโทษประหารสถานเดียว แต่ก็ไม่คาดหวัง ว่าใครจะกล้ามาร่วมลงนามการปราบโกง = ประหาร เพราะรู้อยู่แล้วว่าแต่ละพรรคที่หาเสียงกันอยู่นั้น ต่างก็หวังถอนทุนคืน หวังเข้าไปโกงกินกันอยู่แล้ว
อีกทั้งแต่ละพรรคการเมือง ต่างมีนโยบายประชานิยมออกมาจูงใจให้ประชาชน เพื่อให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด ถามว่าจะนำเงินจากไหนมาให้ประชาชน เพราะปัจจุบัน ยังใช้งบประมาณขาดดุลอยู่ทุกปี ต้องกู้เงินทุกปี อย่างนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เมื่อเงินหมดจะเป็นอย่างไร แจกเงินแล้วจะมีงานทำเลยหรือ เศรษฐกิจจะดีขึ้นทันทีหรือไม่ เรื่องนี้กลายเป็นอุปสงค์ปลอม แค่กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้เสริมสร้างศักยภาพของประเทศเลย หรือแม้แต่นโยบายบำนาญประชาชน พรรคใหญ่ ๆ มีแต่นโยบายที่จะทำประเทศเสียหาย แต่พรรครักษ์ผืนป่าฯ ที่ไม่มีนโยบายประชานิยม ไม่กลัวเสียคะแนนนิยม แต่เป็นพรรคที่จริงใจ และต้องการเข้าไปตรวจสอบ
อยากให้ ประชาชนหันมามองพรรครักษ์ผืนป่าฯ ที่ต้องการทำประโยชน์ให้ประเทศชาติอย่างแท้จริงในระยะยาว ไม่ใช่เป็นพรรคเฉาพะกิจ ทำฉาบฉวย ต้องการทำให้ประเทศชาติปราศจากการโกงกิน เพราะเงินที่พรรคการเมืองโกงไปจากโครงการต่าง ๆนั้น 30-40 % สามาถนำมาดูแลปากท้องพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นได้
มาร์ค พิตบูล กล่าวด้วยว่า วันนี้ เรามีกลไกรัฐที่จะต้องตรวจสอบ แต่กลไกรัฐนั้นกลับไม่ทำงานอย่าง ป.ป.ช. ที่มีเรื่องร้องเรียนมากมาย เช่น กรณีล่าสุด เรื่องทุจริตบ่อขยะที่ จ.กาญจนบุรี เรื่องค้างมาเป็นปี มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าทุจริต แต่กลับไม่ดำเนินการ ดังนั้น อาจจำเป็นจะต้องยื่นเรื่องถอดถอน ป.ป.ช.ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่
ย้ำ จุดยืน ‘ปราบโกง’ กำจัดเนื้อร้ายแผ่นดิน ‘คอรัปชั่น’ ต้อง ‘ประหาร’
นายประเสริฐ อภิปุญญา หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ระบุว่า เป้าหมายหลักของพรรค คือ การเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนในการปราบทุจริต ช่วยเหลือให้ประชาชนมีที่ทำกิน มีโอกาสพึ่งพาตัวเองได้ แม้อาจดูเป็นม้านอกสายตาในสนามเลือกตั้ง แต่พรรคฯ มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต่อไป โดยไม่ต้องรอตำแหน่งทางการเมือง เพราะความเดือดร้อนของประชาชนต้องมาเป็นที่หนึ่ง
สำหรับการหาเสียง ยังเน้นใช้โซเชียลมีเดียเป็นหลัก เพราะเป็นพรรคเล็ก ไม่มีทุนเท่าพรรคใหญ่ แต่พร้อมอาสาเข้าไปทำประโยชน์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งศึกเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเน้นนโยบายที่ถาวร เป็นรูปธรรม และจับต้องได้ ด้วยนโยบายหลัก 5 ด้าน ได้แก่
1.ผลักดันกฎหมาย ปราบปรามคอรัปชั่น ให้ดำเนินคดีแล้วเสร็จภายใน 3 ปี
ผิดจริง ต้องลงโทษประหารชีวิต
2.ยุบหน่วยงานที่ซ้ำซ้อน และลดจำนวนข้าราชการ
3.สร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างนวัตกรรม
4.สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ พึ่งพาตนเองได้
5.คืนความเป็นธรรมให้สังคม ประชาชนได้รับการศึกษา ความปลอดภัย
บริการสาธารณะ ความคุ้มครองจากกฎหมายเท่าเทียมกัน
นายประเสริฐ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องใหญ่ที่ได้รับการร้องเรียน คือ โครงการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงนามว่าจ้างสถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ด้วยงบประมาณจำนวนมาก โดยมีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรมีส่วนรู้เห็นในกระบวนการทุจริต จึงจะไปยื่นเรื่องต่อ กสทช, สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
: อ่านข่าวที่เกี่ยวเนื่องก่อนหน้าได้ที่ลิงกืด้านล่างนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: