กรุงเทพฯ – 2 ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 7 และ 9 จ.นครศรีธรรมราช ร่วมรับฟังนโยบายเศรษฐกิจชุดใหญ่ ช่วงโค้งสุดท้าย นำไปบอกต่อชาวบ้าน หวังปิดเกมส์ ชิงพื้นที่ ครองใจประชาชน มั่นใจ ปักธงได้แน่
ในโอกาสที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทัพดรีมทีมเศรษฐกิจของพรรค แถลงสรุปนโยบายช่วงโค้งสุดท้ายสู่การเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลประชารัฐ ซึ่งมีการนำเสนอนโยบายด้านต่าง ๆ เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และดูแลปากท้องของประชาชนในทุกด้าน กระตุ้นเศรษฐกิจ และลดราคาพลังงาน พร้อมย้ำถึงการก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อก้าวข้ามความยากจน เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566
ดร.คมเดช มัชฌิมวงศ์ (ดร.กบ) ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 7 หมายเลข 3 และเรือเอกนายแพทย์พิชาญศักดิ์ บุญมาศ (หมออุ้ย) ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 9 หมายเลข 1 พรรคพลังประชารัฐ ได้เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- สระแก้ว จัดพิธีรับพระราชทาน “พระพุทธสิรินธรเทพรัตน์มงคลภูวดลสันติ”
- ญาติร้องไห้ ระงม!! เผาศพสามี-ภรรยา เหยื่อ อส. สุดเศร้า ลูกชาย บอกลาร่างไร้วิญญาณแม่-พ่อ ไม่ต้องกังวล จ.พัทลุง
- มทบ.32 ลำปาง มอบผ้าห่มคลายหนาวชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง
- สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม จัดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 21
ดร.คมเดช เปิดเผยว่า มาที่พรรคเพื่อรับฟังนโยบายดี ๆ ด้านเศรษกิจ เพื่อจะนำไปบอกกล่าวส่งต่อให้พี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้ง ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง เพราะนโยบายเศรษฐกิจที่พรรคออกมานั้น ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ภาคใต้อย่างมาก โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช ที่มีความเพียบพร้อมในทุก ๆ ด้าน มีแหล่งทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ทั้งน้ำตก หาดทรายชายทะเล รวมไปถึงวัดวาอาราม มีพื้นที่ทำการเกษตร พืชผักผลไม้ สวนยางพาราและปาล์ม ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการยกระดับสนับสนุน ด้วยการขับเคลื่อนตามนโยบายของพรรค ที่จะนำพาเศรษฐกิจของคนในจังหวัดให้เติบโตขึ้น
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 7 จ.นครศรีธรรมราช ประกอบด้วย อ.ถ้ำพรรณรา ทุ่งใหญ่ บางขัน และ อ.ทุ่งสง (เฉพาะ ต.เขาขาว) มีผู้ลงสมัครทั้งหมด 13 พรรคการเมือง ดังนี้
เบอร์ 1 วิชิตร โมสิกานนท์ พรรคเพื่อไทย
เบอร์ 2 ธีรพงษ์ เพิ่ม พรรครวมไทยสร้างชาติ
เบอร์ 3 คมเดช มัชฌิมวงศ์ พรรคพลังประชารัฐ
เบอร์ 4 ศุภชัย เครือจันทร์ พรรคไทยสร้างไทย
เบอร์ 5 พุฒิพงศ์ ลุ่ยจิ๋ว พรรคก้าวไกล
เบอร์ 6 ษฐา ขาวขำ พรรคภูมิใจไทย
เบอร์ 7 ชินวรณ์ บุณยเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์
เบอร์ 8 สมชาย จาบจง พรรคเสรีรวมไทย
เบอร์ 9 จิราภรณ์ ไชยฤกษ์ พรรคไทยภักดี
เบอร์ 10 รัตชฎา สุขมาก พรรคคลองไทย
เบอร์ 11 พิษณุ รสมาลี พรรคทางเลือกใหม่
เบอร์ 12 กฤตภาส ชาญสวัสดิ์ พรรคพลังปวงชนไทย
เบอร์ 13 เจริญวิทย์ แก้วแสน พรรคไทยสมาร์ท
ดร.คมเดช ระบุว่า ในฐานะที่ตนเองเคยเป็นผู้ลงสมัครแข่งขันในนามพรรคพลังประชารัฐ เมื่อปี 2562 แต่พ่ายแพ้ให้แชมป์เก่า ส.ส.หลายสมัย ของพรรคประชาธิปัตย์ ไปด้วยคะแนนที่ไม่มากนัก มาครั้งนี้ ยังคงยึดมั่นในพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม การที่ได้สัมผัสและคลุกคลีกับพี่น้องชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ย่อมทราบทุกปัญหาดี ทำให้มั่นใจว่า จะสามารถเอาชนะคู่แข่งได้แน่นอน โดยเฉพาะเจ้าของพื้นที่เดิม ที่ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง” เพราะถูกผูกขาดมานาน จนไม่มีการพัฒนาพื้นที่
ทั้งนี้ เจ้าของพื้นที่เดิม คือ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่สามารถรักษาฐานที่มั่นเก่าไว้ได้ยาวนาน ไม่มีใครสามารถเจาะพื้นที่ได้ และการเลือกตั้งครั้งนี้ นายชินวรณ์ ยังคงลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ได้หมายเลข 7 จึงถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ที่เหล่าผู้สมัครทั้ง 12 คน จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะโค่นแชมป์ให้ได้
ดร.คมเดช กล่าวอีกว่า เขตเลือกตั้งที่ 7 เป็นพื้นที่ที่ยากที่สุดในการลงพื้นที่หาเสียง ถือเป็น ‘งานหิน’ ของผู้สมัครทุกคน โดยเฉพาะคนหน้าใหม่ พื้นที่หาเสียงมีระยะห่างกันนับ 100 กิโลเมตร ฝั่ง อ.ถ้ำพรรณรา ติดกับ จ.สุราษฎร์ธานี ฝั่ง อ.ทุ่งใหญ่ ติดกับ จ.กระบี่ และฝั่ง อ.บางขัน ติดกับ จ.ตรัง คนที่ไม่ตั้งใจ และไม่มีความพยายามจะไม่ประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นบวกกับกระแสของพรรค ด้วยนโยบายต่าง ๆ อย่าง บัตรประชารัฐ 700 บาท เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเพียงหลักร้อย มาเป็น 3,000-4,000-5,000 บาท หากพรรคพลังประชารัฐได้จัดตั้งเป็นรัฐบาล สวัสดิการเหล่านี้จะสามารถตอบโจทย์ให้คนรากหญ้าได้อย่างดี ทำให้ทุกคนลืมตาอ้าปาก อยู่ดีกินดีขึ้นมาได้
“ดูคนให้ดูที่ผลงาน อย่าไปวัดที่ชื่อเสียง ที่ผ่านมาชาวบ้านเขาเพียงพอแล้ว มั่นใจว่าศึกครั้งนี้เปลี่ยนแน่ เชื่อว่าผมจะสามารถช่วงชิงพื้นที่มาได้อย่างแน่นอน” นายคมเดช กล่าว
ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 7 หมายเลข 3 ยังเอ่ยพาดพิงถึงนายชินวรณ์ด้วยว่า เป็นพี่ชายที่เคารพรักมาโดยตลอด ไม่มีอะไรต่อกัน แต่การเป็น ส.ส.มาถึง 9 สมัย กว่า 30 ปี จึงถึงเวลาแล้วที่ควรจะพักผ่อน เพราะอายุมากแล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยจะดี ให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าไปบริหารแทน สิ่งที่ทำดีมา ก็ดีแล้ว แต่สิ่งที่ยังไม่ดีพอ ก็ให้คนอื่นเขาทำ “หากพี่น้องชาวเขต 7 รักพี่ชินวรณ์จริง ก็ต้องให้เขาพักผ่อนได้แล้ว และมาเทคะแนนให้กับตนเอง เบอร์ 3 พรรคพลังประชารัฐ” ดร.คมเดช กล่าวทิ้งท้าย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษนายชินวรณ์ และกล่าวขอพื้นที่ รวมถึงขอคะแนนเสียงจากชาวบ้าน
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 9 ประกอบด้วย อ.นบพิตำ พรหมคีรี และท่าศาลา (เฉพาะ ต.ดอนตะโก ท่าศาลา ไทยบุรี โพธิ์ทอง โมคลาน และ ต.หัวตะพาน) มี 11 พรรคการเมืองส่งผู้สมัครลงชิงชัย ซึ่งหลายคนนับว่าเป็นกระดูกเบอร์ใหญ่ เรียกได้ว่าฟัดกันแทบไม่ลง เป็นอีกเขตเลือกตั้งที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด ผู้สมัครทุกคนต่างต้องสรรหากลยุทธ์มาใช้ หวังกอบโกยคะแนนเสียง เพื่อให้ได้รับชัยชนะให้ได้ ประกอบด้วย
เบอร์ 1 พิชาญศักดิ์ บุญมาศ พรรคพลังประชารัฐ
เบอร์ 2 สุรินทร์ เมฆาวรรณ พรรคชาติพัฒนากล้า
เบอร์ 3 พชร สงประเสริฐ พรรคไทยสร้างไทย
เบอร์ 4 พีรกิตติ์ แก้วนก พรรคก้าวไกล
เบอร์ 5 อวยพรศรี เชาวลิต พรรคประชาธิปัตย์
เบอร์ 6 หมอผึ้ง นันทวัน วิเชียร พรรคภูมิใจไทย
เบอร์ 7 อภิวิชญ์ รยนตรีกาล พรรคเสรีรวมไทย
เบอร์ 8 อำนวย ยุติธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ
เบอร์ 9 ฤทธิโชค ชัยฤกษ์ พรรคไทยภักดี
เบอร์ 10 สุทัศน์ ดาราไกย พรรคคลองไทย
เบอร์ 11 จรัญ ศรีสุข พรรคเพื่อไทย
กระแสในพื้นที่นี้ มี 3-4 พรรคการเมือง ที่เบียดเสียดคู่คี่กัน อย่างผู้สมัคร หมายเลข 5 พรรค ปชป. มีดีกรีเป็นคนในครอบครัวของผู้นำท้องถิ่นที่มีอิทธิพลทางการเมืองในพื้นที่มาอย่างยาวนาน แต่ก็มีผู้สมัครรายอื่นที่ชาวบ้านสนใจ เช่น ผู้สมัครหมายเลข 8 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ได้กระแสของ ‘ลุงตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ บวกกับความเป็นน้องชายของ อดีต ส.ส.ผู้แปรพรรค ย้ายมาจาก พปชร. ตาม ‘ลุงตู่’ มาเข้า รทสช. คือ นายสายันต์ ยุติธรรม ตามด้วยกระแสที่ตีตื้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และน่าจะมีลุ้นอยู่ไม่น้อย คือ ผู้สมัครหมายเลข 1 พปชร. ด้วยกระแสความนิยมของ ‘ลุงป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พปชร. ที่พี่น้องชาวใต้ ก็ให้ความสนอกสนใจอยู่ไม่น้อย ดีวันดีคืน นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครหมายเลข 6 พรรคภูมิใจไทย ที่อยู่ในแวดวงสาธารณสุช และชาวบ้านรู้จักกันดี
เรือเอกนายแพทย์พิชาญศักดิ์ บุญมาศ หรือหมออุ้ย ผู้สมัครหมายเลข 1 บอกถึงสาเหตุการถอดเสื้อกราวน์ ทิ้งเข็มฉีดยา มาลงสมัครรับเลือกตั้ง ในนามพรรคพลังประชารัฐ ว่า เพราะตลอดอายุการทำหน้าที่ ‘หมอรักษาผู้ป่วย’ ก็รักษาได้เพียงคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่หากได้เป็น ส.ส. จะสามารถรักษาคนได้ทั้งประเทศ ด้วยการนำความรู้และประสบการณ์ทุกอย่างที่มี เข้าไปมีบทบาทในสภาฯ การเมืองกับวิชาชีพที่ทำอยู่ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ แม้จะเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง แต่สิ่งที่นำลงไปบอกกล่าวให้ชาวบ้านทุกคนทราบนั้น เชื่อว่าชาวบ้านยอมรับ และยินดีที่จะลงคะแนน ส่งให้ได้ศัลยกรรมแพทย์ เป็น ส.ส.คนแรกในประวัติศาสตร์การแพทย์และการเมืองไทยอย่างแน่นอน
หลายคนถามว่า “ไม่กลัวหรือ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่อิทธิพล” หากกลัวก็คงไม่ได้มายืนอยู่จุดนี้ เชื่อว่าประชาชนทุกคนต้องการเห็นบ้านเมืองดีขึ้น ปราศจากสิ่งที่กลัวกันอยู่ หมดยุคของอิทธิพลเหล่านั้นไปแล้ว เชื่อว่าชาวบ้านทุกคนรู้ดีว่าจะเลือกสิ่งใดให้ตัวเองในอนาคต และเราทำการเมืองวิถีใหม่ ติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชน เลือกผู้แทนให้ตรงกับยุคกับสมัย
ซึ่งเขตพื้นที่นี้มีความหลากหลายสลับซับซ้อนทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ และศาสนา เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม เขาป่านาเล ประกอบอาชีพเกษตร และประมงเป็นหลัก มีแหล่งอุตสาหกรรม สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย ทั้งน้ำตกที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ ที่สำคัญไปกว่านั้น ยังมีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
“ผมทำการเมือง ไม่ได้แข่งกับใคร ผมแข่งกับตัวเอง ทิ้งมีดผ่าตัด ทิ้งเข็มฉีดยา ทิ้งห้องแอร์ ทิ้งรายได้จากการผ่าตัด เพื่อมาอยู่รับใช้พี่น้อง รับใช้บ้านเกิดเมืองนอน เข้าไปรักษาเจ็บ รักษาจน เพื่อคนเขต 9 และนครศรีธรรมราช ด้วยความรู้ ด้วยอาวุธที่มี คือ เข็มฉีดยา มีดผ่าตัด ที่จะไปต่อสู้กับอิทธิพล ทุก ๆ ปัญหา ขอให้พี่น้องทุกคนเป็นหมอเพื่อวินิจฉัยตัวผู้สมัครทุกคน ว่าเบอร์ไหนเหมาะสม ที่จะเข้ามาเป็นยารักษา เยียวยาบ้านของเราดีขึ้นในยามวิกฤติ เปรียบดั่งโรคที่ร้ายแรง ระยะสุดท้าย ต้องเข้าห้องไอซียู ซึ่งพี่น้องต้องตัดสินใจเลือกยาเคมีที่เฉพาะเจาะจงที่รักษาได้ ขอโอกาสพี่น้องในเขตเลือกตั้งที่ 9 ทุกคน ช่วยเป็นคลื่นลูกใหญ่ เป็นสึนามิ เลือกหมอ เลือกนายแพทย์ ให้ถล่มทลาย สร้างประวัติศาสตร์ ว่า นครศรีฯ มี ด็อกเตอร์นายแพทย์ไปสร้างเมืองประวัติศาสตร์ ให้เป็นเมืองแห่งสุขภาพใน 4 ปีให้ได้ วันที่ 14 พ.ค.นี้ เข้าคูหาไปกาบัตรสีม่วง หมายเลข 1 หมออุ้ย เรือเอกนายแพทย์พิชาญศักดิ์ บุญมาศ และบัตรสีเขียว หมายเลข 37 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมที่จะไปรับใช้ ไปเป็นจี๊กซอว์ตัวหนึ่งที่จะเข้าไปพัฒนา จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่รากฐานจนถึงจุดสูงสุดของพี่น้องทุกคน” ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 9 หมายเลข 1 กล่าวทิ้งท้าย”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: