กรุงเทพฯ – ‘พล.อ.ประยุทธ์’ พร้อม ‘พีระพันธุ์’ นำ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นปราศรัยใหญ่ ใต้สะพานพระราม 8 ยืนยันจะทำหน้าที่ทุกอย่าง ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ จะเป็นสะพานให้คนไทยก้าวข้ามเดินไปข้างหน้า เพื่อให้ประเทศไทยไปสู่ความเจริญ
วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ใช้ชื่อว่า ‘รวมพล คนเบอร์ 5’ ที่ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร โดยมีแกนนำพรรค นำโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี, นายชัชวาลล์ คงอุดม, นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค, ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ผลัดกันขึ้นปราศรัยนำเสนอนโยบายของพรรค พร้อมช่วยผู้สมัครในพื้นที่ และใกล้เคียง หาเสียง ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงค่ำ ซึ่งบรรยกาศเต็บไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียง เข้าร่วมรับฟังกว่า 1,000 คน
นายพีระพันธุ์ กล่าวปราศรัยบนเวที ว่า ในชีวิตของตนเองมีหลายเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นเพราะถูกกำหนดไว้แล้ว อย่างเช่นการที่ผู้สมัคร 3 เขต ต่างจับเบอร์ได้เบอร์ 5 เหมือนกัน ขณะที่เบอร์พรรคคือเบอร์ 22 ซึ่งอยากจะบอกว่าตอนนี้ทุกคนพูดเรื่องนโยบายดังนั้นไม่ต้องพูดมาก ซึ่งอยากจะบอกว่า ตั้งแต่ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติมา ถือว่าเป็นพรรคที่โตเร็วมาก และมั่นใจว่าจะเป็นพรรคหลักของการเมืองไทย เพราะพรรคอื่น ๆ ตายไปหมดแล้ว
“วันนี้มีปัญหาบ้านเมืองหลายเรื่อง ที่คนพยายามพูดว่ามีเรื่องต่าง ๆ เอาเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องอื่น ๆ มาพูด แต่ปัญหาจริง ๆ คือความพยายามล้มชาติ ล้มแผ่นดิน ดังนั้นวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ขอให้ทุกคนไปเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างถล่มทลาย เพื่อสร้างชาติบ้านเมืองที่ดีไว้ให้กับลูกหลาน เพราะการเมือง และประเทศไทยเป็นของทุกคนไม่ใช่วัยใดวัยหนึ่ง และต้องช่วยกัน จะทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้ ตามคำขวัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งจะเป็นคนที่จะสามารถนำพาประเทศไปข้างหน้าต่อไปได้ ดังนั้นจึงขอให้ช่วยกันเลือก ส.ส.ที่จะเข้าไปยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นนายกฯ อีกครั้ง” นายพีระพันธุ์ กล่าว
ด้านนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กล่าวบนเวทีอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน โดยมีการเอ่ยพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า การเมืองในประเทศไทยมันเลวลงทุกวัน เพราะมีคนเลวเข้าไปเล่นการเมืองมาก ได้รัฐมนตรีเลว ๆ เข้าไปทำงาน 8 ปี ที่ตนเองอยู่กับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ช่วงปี 2522-2529 การบริหารประเทศยุคนั้น ทุจริตคอรัปชั่นแทบไม่มีให้เห็น แต่มาช่วงยุคหลัง ในปี 2544-2548 รัฐบาลโกงกันจนทหารทนไม่ได้ ต้องเข้ามายึดอำนาจ เมื่อปี 2549 หากพี่น้องทุกคนยังจำกันได้ และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ พร้อมดำเนินคดี ซึ่งศาลฎีกา สั่งจำคุกไปแล้ว 4 คดี 12 ปี พร้อมยึดทรัพย์ไปกว่า 4 หมื่น 6 พันล้านบาท นี่คือความเลวร้าย รองมาจาก เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตประธานาธิบดีฟิลิปินส์ ที่ถูกยึดทรัพย์ไปกว่า 6 หมื่น 4 พันล้านบาท ของบ้านเราเป็นลำดับที่ 2 แล้วพี่น้องประชาชนทุกคนจะให้เป็นแบบนี้อีกต่อไปหรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าว
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ขึ้นเวทีกล่าวทักทายประชาชนบนเวที พร้อมปราศรัยชักชวนให้คนไทยทุกคนหันมารักชาติ ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ทุกอย่างให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ เป็นนักการเมืองต้องรักประชาชนต้องซื่อสัตย์ต่อประชาชน พรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นสะพานให้คนไทยก้าวข้ามเดินไปข้างหน้า เพื่อให้ประเทศไทยไปสู่ความเจริญ ประเทศไทยมีคน 77 ล้านคน ตนเองจะทำงานให้กับทุกคน พร้อมที่จะทำงานต่อ เพราะทำมาแล้ว ทำอยู่ และทำต่อไป เพื่อคนไทยทั้งชาติ ขอย้ำว่าคนไทยต้องรักกัน วันนี้เรารวมทีมคนรักชาติ และแผ่นดินมาอยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 33 เขตในกรุงเทพฯ วันที่ 14 พฤษภาคม อย่านอนหลับทับสิทธิ์ ใบสีม่วงให้เลือกเบอร์ผู้สมัครส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติในแต่ละเขต ส่วนใบสีเขียวให้เลือกเบอร์ 22 เบอร์ลุงตู่
“คนกรุงเทพฯ อย่าทิ้งลุงตู่ พี่ตู่ เบอร์ 22 ใจลุงตู่ส่งไปถึงคนกรุงเทพฯทุกเขตในกทม. ผมทำอะไรให้มากมาย ทั้งการท่องเที่ยว คูคลอง ตลาด ใครจะไปใครจะมา ขอให้ทำในสิ่งที่ผมได้ทำมาแล้ว อย่าทำให้เสื่อมสลาย สำหรับผมขอสัญญาว่าจะทำงานเพื่อทุกคนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่สร้างความเกลียดชังไม่สร้างความบาดหมางในสังคมไทยอีกต่อไป ความขัดแย้งมันจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
