กรุงเทพฯ – 8 พรรคร่วมฯ เสียงแตก หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ แนะ พรรคก้าวไกล อย่าฝืน ลดไฟในตัวลงคงดี พร้อมหนุน พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลเต็มที่ ชี้ MOU ขาดไปแล้ว ตั้งแต่เปลี่ยนมือจัดตั้งรัฐบาล
ดร.เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ ให้สัมภาษณ์สดผ่านรายการ ‘ก้าวใหม่อนาคตไทย จะไปทางไหน?’ โดยแพลตฟอร์มข่าวชุมชน 77 ข่าวเด็ด เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 หลังจากเดินทางมาจาก จ.น่าน เพื่อเข้าร่วมประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่กลับถูกยกเลิกกะทันหัน โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทยแจ้งเหตุยกเลิกประชุม เนื่องจากยังไม่พร้อมด้านข้อมูล เรื่องที่จะแจ้งความคืบหน้า ที่ได้ไปพูดคุยกับ 5 พรรคการเมือง และ ส.ว.
ตอนนี้ คงต้องให้เวลากับพรรคเพื่อไทยอีกสักระยะ ในการไปหาเสียงสนับสนุนให้ครบ 375 เสียง โดยไม่อึดอัดใจหรือเหนื่อย ที่ต้องเดินทางไป-กลับ น่าน-กรุงเทพมหานคร เป็นว่าเล่น ตั้งแต่เข้ามาเป็น 1 ใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และสถานการณ์อาจจะคงยืดเยื้อออกไปอีก แม้หลายครั้งที่จองตั๋วเดินทางแล้ว แต่การประชุมมีอันต้องเลื่อนหรือยกเลิกออกไป
ดร.เชาวฤทธิ์ กล่าวต่อว่า พรรคพลังสังคมใหม่พร้อมให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะนำพรรคการเมืองใดเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลอีก ขอเพียงให้ได้ตั้งรัฐบาล ได้นายกรัฐมนตรีโดยเร็ว เพราะพี่น้องประชาชนรอคอยการแก้ปัญหาความเดือดร้อนอยู่
“สำหรับพรรคก้าวไกล ในเมื่อไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และส่งต่อภารกิจให้พรรคเพื่อไทย ดังนั้น สิ่งที่พรรคก้าวไกลควรจะต้องทำ คือ การลดความรุนแรง ร้อนแรง และไฟแรงลงหน่อย ถอยสักก้าวสองก้าว เพราะเสียงที่ถูกต่อต้านมีเยอะ ฝั่งหนึ่งมี 188 อีกฝั่งหนึ่งมี 312 เสียง ต่างคนก็ต่างถอย พรรคก้าวไกลเองก็อาจจะถอยในเรื่องมาตรา 112 เพราะ ส.ว.เขาไม่เอา หากดึงกันอยู่อย่างนี้ ก็ไม่สามารถโหวตนายกฯ จัดตั้งรัฐบาลได้ ถอยลงมาหน่อยคงจะดี หากก้าวไกลยังยึดมั่นอยู่อย่างนี้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็คงจะหาวิธีการ ที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้อย่างแน่นอน แม้จะต้องไปจับมือในขั้วตรงข้ามก็ตาม เชื่อว่าเดือนสิงหาคม คงจะสามารถตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน ผมมั่นใจ” ดร.เชาวฤทธิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า พรรคเพื่อไทยกำลังใช้วิธียืมปากพรรคการเมืองอื่น มาบีบให้พรรคก้าวไกลออกจาก 8 พรรคร่วมฯ ไปเป็นฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ มองว่า คงจะไม่เป็นความจริง เพราะอย่าลืมว่า ในกลุ่ม 188 เสียง (ขั้วรัฐบาลเดิม) ก่อนหน้านี้ ก็ต่อต้านพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว แม้เชิญมาพูดคุย แต่ทุกพรรคก็ยังยืนยันหลักการเดิมอยู่ดี ที่ไม่ขอร่วมกับก้าวไกล
ส่วนบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) เดิม ตอนนี้มันจบไปแล้ว จบไปโดยปริยาย จากนี้ก็เป็นสิทธิ์และหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ว่าจะทำ MOU ใหม่หรือไม่ “ใน 23 ข้อที่เซ็นเอ็มโอยู ร่วมกันนั้น ก็เป็นของก้าวไกลทั้งหมด และมันจบไปแล้ว เพราะว่าโหวตคุณพิธาไม่ผ่าน และได้มอบหมายให้พรรคอันดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยหลังจากการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย ไปติดต่อประสานงานกับทาง ส.ว. และพรรคการเมืองอื่น ๆ ซึ่งทั้ง 5 พรรคก็มีข้อแม้ว่า หากจะให้มาเข้าร่วมต้องไม่มีพรรคก้าวไกล อาจเป็นเหตุผลที่ต้องยกเลิกประชุม ก็ต้องให้เวลากับพรรคเพื่อไทยได้ตั้งหลักสักนิด แต่คิดว่าคงจะไม่ติดขัดปัญหาอะไร พรรคเพื่อไทยคงจะสามารถปรับความเข้าใจ และพูดคุยกับพรรคก้าวไกลได้ ส่วนตัวยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของพรรคเพื่อไทยอยู่” ดร.เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ กล่าวย้ำอย่างมั่นใจ
