กรุงเทพฯ : นักสืบนครบาล 111 แกะรอยติดตามจับกุม สองคู่รัก ‘บอย-ส้ม’ สัญชาติกัมพูชา ลักลอบเข้าเมือง ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ ล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว ทั่วเมืองกรุง สารภาพทำมาแล้วกว่า 100 ครั้ง หาเงินกินเที่ยว
วันที่ 27 สิงหาคม 2566 สืบเนื่องจากปัญหาการก่ออาชญากรรมของกลุ่มมิจฉาชีพที่ออกตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์สินของชาวบ้าน และล้วงกระเป๋า นักท่องเที่ยว ตามห้างสรรพสินค้า แหล่งชุมชนที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมถึงผู้คนที่สัญจรไปมาตามท้องถนน ทั่วกรุงเทพฯ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสือบสวน กองบัญชาการนครบาล จึงได้วางแนวทางการป้องกันและปราบปราม พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของ บก.สส.บช.น. นักสืบ 111 เร่งแกะรอยสืบสวน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว จนพบกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพแก๊งนี้
จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวน จนทราบแผนประทุษกรรม และแกะรอยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายบูย หรือบอย ยางฮา อายุ 31 ปี และนางสาวแมรี่ หรือส้ม จีน อายุ 27 ปี สัญชาติกัมพูชา ได้ภายในห้องพักเลขที่ 310 อพาร์ทเม้นทรัพย์เอเชีย ซอยสุขุมวิท 111 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ขณะเตรียมการเก็บเสื้อผ้าเพื่อจะหลบหนี พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือที่ลักทรัพย์มา และชุดที่ใช้ในการก่อเหตุรวมกว่า 36 รายการ
ข่าวน่าสนใจ:
พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทั้งสองได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ลักลอบเข้ามายังประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณ จ.สระแก้ว เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2565 ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จึงได้วางแผนร่วมกันก่อเหตุล้วงประเป๋า มีการซักซ้อมกันจนชำนาญ ก่อนที่จะออกตระเวนก่อเหตุตามห้างสรรพสินค้า และแหล่งชุมชนที่มีนักท่องเที่ยว และผู้คนสัญจรเป็นจำนวนมาก ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อนำทรัพย์สินที่ได้ไปขาย ได้เงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งลงมือก่อเหตุมามากกว่า 100 ครั้ง หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล จึงได้นำตัว นายบูยฯ และนางสาวแมรี่ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
สำหรับพฤติการณ์ในการก่อเหตุ ทั้งสองจะออกตระเวนล้วงกระเป๋าตามห้างสรรพสินค้า และแหล่งชุมชนที่มีนักท่องเที่ยว และผู้คนสัญจรเป็นจำนวนมาก ทั่วกรุงเทพฯ โดยมีวิธีการก่อเหตุคือจะมีการแบ่งหน้าที่กันทำแบบชัดเจน โดยคนหนึ่งจะทำการประชิดตัวผู้เสียหายเพื่อทำการเบี่ยงเบนความสนใจ ก่อนที่อีกคนหนึ่งจะทำการล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สินไปก่อนจะหลบหนี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: