กรุงเทพฯ : อี้ แทนคุณ ชื่นชม หมิว ส.ส.ก้าวไกล นำอาหารเหลือจากสภากลับบ้าน ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เป็นการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ ไม่ทำให้โลกร้อน แนะเรื่องที่ควรทำเพิ่ม ไม่ควรใช้เด็กเยาวชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง
วันที่ 7 กันยายน 66 จากกรณีที่ นางสาวศิริลภัส กองตระการ ส.ส. พรรคก้าวไกล นำอาหารสภากลับบ้าน หลังเสร็จสิ้นการประชุมสภา ซึ่งกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความคิดเห็นกับเรื่องดังกล่าว โดยมองว่า เป็นเรื่องดี ไม่ทำให้อาหารเหลือ เพราะหากเหลือทิ้ง ก็ไปทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก อันเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน ที่ปัจจุบันเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก และมีการประกาศจากองค์การสหประชาชาติให้เป็นวาระ “โลกเดือด” เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากวิถีชีวิตของมนุษย์ ทั้งการอุปโภคและบริโภคที่กินทิ้งกินขว้าง และไทยเรายังไม่มีมาตรการกำจัดสิ่งเหลือใช้เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพพอ
ดังนั้นการนำอาหารที่เหลือ ไม่มีผู้รับประทานต่อแล้ว กลับไปทานเองก็ดี แจกจ่ายแบ่งปันให้ผู้อื่นถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูให้รอบคอบว่า ยังมีสมาชิกที่ยังไม่ได้ทานข้าว เหลืออยู่อีกไหม เพราะหลายครั้งสมาชิกที่มีการประชุมติดพันค้างอยู่ และยังไม่ได้ทานข้าว อาจจะเข้ามาช้า ทำให้อาหารที่ถูกนำกลับไปหมด ไม่มีเหลือให้สมาชิกที่อยู่ข้างหลังได้ทาน ซึ่งเชื่อว่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ และการบริหารจัดการของสภาด้วย
โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับวัฒนธรรมที่จะช่วยกันทานอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้งเหลือขว้าง เพราะค่าอาหารล้วนแล้วแต่เป็นเงินภาษีจากพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น และเคยมีประเด็นคำถามถึงงบประมาณที่ต้องเสียไป หากสภาล่มหรือเลิกประชุมเร็ว ซึ่งในต่างประเทศก็มีการตื่นตัวสร้างวัฒนธรรมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีความเป็นห่วงเรื่องของภาวะความมั่นคงทางอาหาร ที่อาหารอาจจะเริ่มขาดแคลนลงในอนาคต
ข่าวน่าสนใจ:
ดังนั้นแม้ว่าหลายพฤติกรรมของพรรคก้าวไกลในเรื่องอื่น ที่ตนเองจะไม่เห็นด้วย เช่นการใช้เด็กเยาวชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง การปกป้องคนละเมิดทางเพศ ซึ่ง ส.ส.หมิวควรช่วยแก้ปัญหานี้ควบคู่ไปกับเรื่องของการคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ตนเองถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง และไม่ควรนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะถือว่าเป็นการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาสู่การปฏิบัติ ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและบริบททางสังคม ไม่ใช่เรื่องเสียหาย และน่าอับอายแต่ประการใด เป็นค่านิยมที่ดีช่วยลบภาพลักษณ์เก่าๆ ไปได้มาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: