กรุงเทพฯ : ‘นายกรัฐมนตรี’ เรียก ‘บิ๊กโจ๊ก’ ร่วมประชุม ป.ป.ส. เปิดบ้านพิษณุโลก ให้แนวทางทำงานด้านความมั่นคง หวังเปิดฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน เน้นย้ำปราบปรามมาเฟีย วางคดี ‘กำนันนก’ เป็นตัวอย่าง ล้างบางพวกมีอิทธิพล
ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางกลับมาจาการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย ช่วงระหว่างวันที่ 8-9 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ วันที่ 10 กันยายน 2566 นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เป็นการส่วนตัวในเวลา 12.00 น. และเดินทางต่อไปยังบ้านพิษณุโลกเป็นครั้งแรก ในเวลา 12.30 น. พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านพิษณุโลก รวมถึงรูปปั้นนารายณ์บรรทมสินทธุ์ และเดินชมบริเวณโดยรอบ ก่อนเป็นประธานการประชุม เพื่อรายงานปัญหายาเสพติด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม อาทิ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
ภายหลังการหารือเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับโดยรถตู้ส่วนตัว พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้น ๆ ว่า มีการพูดคุยหารือกันหลายเรื่อง ได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมประชุม
เมื่อถามว่า ได้สั่งการอะไรหรือไม่ กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. นายเศรษฐา ตอบว่า ยังสั่งการอะไรไม่ได้ เป็นการมารับฟังข้อมูลเฉย ๆ ต้องรอให้ผ่านการประชุมสภา เสนอนโยบายไปก่อน
ข่าวน่าสนใจ:
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รายงาน ความคืบหน้าคดีกำนันนกหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า ได้มีการรายงาน
นายเศรษฐา ยังเปิดเผยอีกว่า วันนี้ได้มาเดินดูภูมิทัศน์บ้านพิษณุโลก ถือว่า สะอาดสะอ้านดี มีการดูแลรักษาอย่างดี คงจะใช้สถานที่แห่งนี้ เป็นที่ประชุมบ้าง จัดเลี้ยงบ้าง แต่จะไม่ได้มานอนที่นี่
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ได้เปิดเผยถึงการหารือกับนายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯ ได้ให้แนวทาง 2 เรื่อง เรื่องแรกคือด้านการท่องเที่ยว ที่รัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งในส่วนของหน่วยงานความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มองว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางมาประเทศไทย เพราะมีขั้นตอนยากลำบากในการเดินทางเข้าประเทศ ต้องการเปิดวีซ่า จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาที่ประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น โดยตำรวจจะมีการเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยว ให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเน้นย้ำในส่วนด้านความปลอดภัยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล เพื่อรองรับนโยบายนี้ ซึ่งจะทำให้โรงแรม ร้านค้า กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของไทย
ส่วนอีกเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ และเป็นกังวล คือการปราบปรามมาเฟียและผู้มีอิทธิพล และให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำแนวทางให้มีการปราบปรามให้ถึงที่สุด รวมถึงที่มีการฮั้วะประมูลในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องคดีกำนันนก ที่มีเงินเป็นพันล้านบาท ภายในเวลาไม่กี่ปี และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ยืนยันว่าตนเองจะลงไปกำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และตำรวจต้องไม่เป็นไม้ค้ำยันให้ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: