นครปฐม : รับว่าที่ ผบ.ตร.ป้ายแดง ‘บิ๊กต่อ’ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตร.191 นครปฐม โชว์ผลงาน จับเอเย่นต์ ค้ายารายใหญ่ พร้อมของกลางยาเสพติดหลายประเภท ‘บิ๊กล็อต’ รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 27 กันยายน 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางไปแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.นครปฐม ภายหลัง พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ พร้อมกำลังตำรวจ 191 สภ.เมืองนครปฐม ได้เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 20/15 ซ.ลำพยา-บอสโก 2 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งพักยาเสพติดของเครือข่ายค้ายาเสพติด โดยยึดของกลางยาเสพติดได้ล็อตใหญ่ หลายประเภท
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์สองชั้น เจ้าหน้าที่ได้นำ กำลังปิดล้อมเพื่อทำการตรวจค้น โดยในเบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายได้ทั้งหมดสี่ราย คือ นายชลิต เขียวพราย อายุ 39 ปีที่อยู่ 88/2 หมู่ที่ 2 ต.ทัพหลวง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม, นายอภิชาติ เอกจีน อายุ 38 ปี, นายจรัญ เขียวพราย อายุ 38 ปี และ นายวัชระ เขียวพราย อายุ 36 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 15 ล้านเม็ด เฮโรอีน 443 แท่ง ไอซ์ 420 กิโลกรัม และยาเสพติดประเภทแฮปปี้วอเตอร์ และยาไฟว์ไฟว์ อีกจำนวนมาก
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันตรวจสอบ เครือข่ายนี้ทางตำรวจ 191 ได้ใช้เวลาในการแกะรอยติดตามพฤติกรรมมานานกว่าสองปี โดยขยายผลมาจากกลุ่มเครือข่ายที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ซึ่งพบว่าความเชื่อมโยงมาถึงกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว และของกลางที่ตรวจยึดได้ ถือว่ามากที่สุดเท่าที่มีการจับกุม รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท หลังจากนี้จะได้ทำการขยายผลหาความเชื่อมโยงของเครือข่ายอื่นต่อไป
ขณะที่พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ขบวนการนี้ มีได้ลำเลียงยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านทางฝั่งเหนือ ก่อนที่จะนำเข้ามาตามเส้นทาง โดยก่อนหน้านี้มีการใช้บ้านในแถบชานเมืองปริมณฑล เป็นแหล่งพัก ภายหลังมีการจับกุม นายวราวุธ อินคล้าย 36 ปี ผู้ต้องหาในความผิด มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง และข้อหาสมคบเพื่อการฟอกเงินของทาง บช.ปส. ทางเครือข่ายจึงได้ยักย้ายยาเสพติดมารวมกันไว้ที่บ้านหลังนี้ เพื่อเตรียมกระจายไปให้กับกลุ่มเอเย่นรายย่อย เมื่อสืบทราบแน่ชัดจึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุม พร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้ภายในบ้านหลังดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ไว้ในความครอบครองเพื่อขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
