กรุงเทพฯ : มือยิงนักศึกษาเทคนิคดุสิต รับสารภาพ เป็นคนลงมือยิงเพียงคนเดียว หวังป้องกันตัว ผบช.น.เผย เป็นอดีตนักศึกษา ยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างสถาบัน
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ความคืบหน้ากรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล บุกเข้าจับกุมตัวนายอัครพล (ยีน ไทรน้อย) ศิริเมฆานนท์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.4091/2566 ลงวันที่ 20 พ.ย.2566 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันกับพวกอีก 2 คน พยายามฆ่า นายพงษ์ภีระ สุขโคตร อายุ 16 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเทคนิคดุสิต จนเสียชีวิต เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ภายในซอยระนอง 2 แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ซึ่งจับกุมได้ที่ บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 แยก 5 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. ก่อนนำตัวไปตรวจหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นนำตัวกลับมาสอบสวนต่อ ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อหาข้อเท็จจริง นำไปสู่การขยายผลติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีอีก 2 คน
โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตัวเอง พร้อมประสาน กองพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ที่นายอัครพล ใช้ก่อเหตุ
ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดเผยต่อสื่อมสวลชนว่า นายอัครพล เป็นอดีตนักศึกษา สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธนบุรี โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาทั้งสาม ได้ตั้งวงดื่มน้ำกระท่อมกัน ก่อนชักชวนกันมาแซว หาเรื่องเด็กนักศึกษาที่จะเดินทางไปที่เทคนิคดุสิต
ระหว่างนั้น ได้พบกับ นายพงษ์ภีระ (ผู้ตาย) เดินอยู่ กระทั่งมีเพื่อนขับขี่ จยย.มารับ ผู้ต้องหาทั้งสาม จึงขับขี่ จยย.ตาม ก่อนเกิดการชุลมุนต่อสู้กัน โดยนายอัครพล ให้การว่า นายออฟ คนซ้อนท้าย ถูกแทงจนได้รับบาดเจ็บ ตนเองจึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมา ยิงเข้าใส่ผู้เสียชีวิต
ส่วนมูลเหตุจูงใจนั้น ได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว
ผบช.น.กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ทราบชื่อผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เหลือแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับ เหลือเพียงติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี หากผู้ต้องหาต้องการจะเข้ามอบตัว ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่หากตำรวจพบตัวก่อน ก็จะดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนกฎหมายทันที
อย่างไรก็ตาม นายอัครพล ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนยิงเพียงคนเดียว แต่ทั้ง 3 คนมีอาวุธปืนติดตัวมากันคนละกระบอก หลังก่อเหตุ ได้นำอาวุธไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่า ยืนยันว่า คดีนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างสถาบัน เพราะนายอัครพล ไม่มีสภาพเป็นนักศึกษาแล้ว มีอาชีพรับจ้างเป็นคนส่งพัสดุ ให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเท่านั้น
อ่านรายละเอียดของข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงกืด้านล่าง
