กรุงเทพฯ : ผู้การจ๋อนำทีม สืบนครบาล ตามยึดรถกระบะ กลุ่มนักศึกษาโหดยิงคู่อริ เด็กช่างอุเทนถวาย-ครูเจี๊ยบ เสียชีวิต หลังนำมาจอดซ่อนทิ้งไว้ในป่า พื้นที่ไทรน้อย นนทบุรี
จากเหตุคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ศิรดา อายุ 45 ปี หรือครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และ นายธนสรณ์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย จนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าธนาคารทหารไทย สาขาคลองเตย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา จนกระทั่งมีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 8 คน พร้อมของกลางหลายรายการเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ 22 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล พร้อมด้วยตำรวจ สภ.ไทรน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน นำกำลังเข้าตรวจค้นป่าไผ่ ริม ถ.โยธาธิการ วัดต้นเชือก ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จุดที่คนร้ายนำรถกระบะที่ใช้ร่วมก่อเหตุ มาทิ้งซุกซ่อนไว้ ซึ่งเป็นสวนร้างของชาวบ้าน พบรถกระบะโตโยต้าแบบมีหลังคา สีฟ้า ทะเบียน ขจ-9707 จ. ชลบุรี จอดซุกซ่อนอยู่ มีกิ่งไผ่วางปิดบังไว้รอบคัน และนำผ้าใบสีน้ำเงินมาปกคลุมปิด บริเวณท้ายรถไว้เพื่ออำพราง
ตรวจสอบภายในรถพบหลักฐานหลายชิ้น อาทิ ซองใส่อาวุธปืน 1 ปลอก ป้ายทะเบียนรถ จยย. 1 แผ่น เลขทะเบียน 9 กม-6055 กทม. หมวกไอ้โม่งสีดำ 1 ใบ ถุงมือ ถุงเท้า เสื้อยืด เสื้อแจ็คเก็ตสีดำ และหลักฐานอื่น ๆ เจ้าหน้าจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปกลับไปตรวจสอบประกอบสำนวนคดี
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) เปิดเผยว่า
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 8 รายที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ ให้การว่า ได้นำรถมาทิ้งไว้ที่จุดดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งเป็นรถที่ใช้ร่วมก่อเหตุ โดยใช้ไปรับรถ จยย.คันหนึ่ง ที่ไปลักแผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย.ของชาวบ้านในเขตพื้นที่ สน.ประชาชื่น เพื่อนำมาใช้สับเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย.ที่ใช้ไปก่อเหตุยิงกลุ่มนักศึกษาคู่อริ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ารถกระบะคันดังกล่าว ได้ขับเข้าไปที่เซฟเฮาส์ของกลุ่มคนก่อเหตุภายใน ซ.วงศ์สว่าง 19 จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าไปจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นได้ทั้งหมด 6 คน พร้อมของกลางเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การสอดคล้องกัน จนนำมาสู่การตามมาตรวจยึดรถกระบะที่นำมาซุกซ่อนนี้ไว้ได้ ส่วนรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุยิงนั้น พบว่า เป็นรถสีแดง แต่คนร้ายได้มีการเปลี่ยนสี เป็นสีนำ้เงิน หลังก่อเหตุ ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มนี้ มีการติดต่อผ่านทางไลน์กลุ่มลับถึง 84 คน ซึ่งทั้งหมดมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวด้วย
: อ่านข่าวก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
