กรุงเทพฯ :ตำรวจกองปราบ รวบสาวไทย ผลิตแบงค์ดอลลาร์ปลอม (Black Dollar) ตรวจยึดของกลางขณะกำลังผลิต พบเเบงก์ปลอมเพียบ สารภาพได้วิชาจากจากต่างชาตชาวผิวสี
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) (CIB) พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผู้กำกับการ 2 บก.ป. ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว น.ส.พลอยพัชชา (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี และหมายจับศาลแขวงสมุทรปราการ ในข้อหา ‘ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม และ ฉ้อโกง’ โดยจับกุมได้ภายในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านบางกอกน้อย กทม. พร้อมของกลาง เป็นอุปกรณ์การผลิตธนบัตรปลอม หลายรายการ, รวมถึงธนบัตร สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ปลอม (ที่ผลิตแล้ว) ชนิดใบละ 100 ดอนลาร์ จำนวน 763 ฉบับ, ตู้เซฟ จำนวน 2 ตู้, แม็คบุ๊ค 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพื่อดำเนินคดี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป.ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ดำเนินการสืบสวนจับกุม ผู้กระทำผิดกฎหมาย หรือบุคคลตามหมายจับ โดยเฉพาะในห้วงเทศกาลสำคัญ เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น โดยจากกการสืบสวนพบว่า น.ส.พลอยพัชชา ผู้ต้องหาที่จับได้ เป็นบุคคลตามหมายจับที่ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม และร่วมกันฉ้อโกง ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน ทราบสถานที่พักของบุคคลดังกล่าว โดยไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางกอกน้อย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงได้สั่งการให้ชุดจับกุมนำกำลังเข้าบุกตรวจค้นจับกุมตัวในทันที ระหว่างการเข้าจับกุม นอกจากจะพบผู้ต้องหาตามหมายจับแล้ว ยังได้ตรวจพบธนบัตรดอลลาร์ปลอม ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการผลิต พร้อมอุปกรณ์การผลิต ภายในห้องพักหลายรายการ จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางดังกล่าว จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบปากคำในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า ได้ซื้ออุปกรณ์การผลิตแบงค์ดอลลาร์ มาจากกลุ่มชายผิวสี ในราคาประมาณ 300,000 บาท โดยกลุ่มชายผิวสี ได้สาธิตวิธีการผลิตให้ดู โดยการนำกระดาษเขียว และดำ ขนาดเท่ากับธนบัตร มาผสมกับสารเคมีในอ่างน้ำภายในโรงแรม จากนั้นรอให้แห้ง และนำไปผสมกับสารเคมีที่เป็นผงสีขาว และขั้นตอนต่อไป ชายชาวผิวสี จะมาดำเนินการต่อ แต่กลับมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติตัวผู้ต้องหาพบว่า เคยก่อเหตุกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายคดี ได้แก่
– ปี 2561 ข้อหา ‘ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารปลอม’ สภ.ปากเกร็ด
– ปี 2564 ข้อหา ‘ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงฯ’ สภ.บางกรวย
– ปี 2564 ข้อหา ‘ตัวการฉ้อโกง’ สภ.บางศรีเมือง
– ปี 2565 ข้อหา ‘ตัวการฉ้อโกง’ สภ.สำโรงเหนือ
สำหรับ ธนบัตรปลอมทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ ทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จะดำเนินการส่งไปให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วย Secret Service ประจำประเทศไทยตรวจสอบอีกครั้ง รวมถึงจะเร่งติดตามตัวกลุ่มชายผิวสี มาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ในส่วนของประชาชนทั่วไปที่ต้องการรับชำระเงิน โดยสกุลเงินต่างประเทศ ขอให้ศึกษารูปแบบธนบัตรให้ดี ก่อนรับชำระทุกครั้ง และในส่วนของผู้ที่ลักลอบผลิตธนบัตรปลอม จะถือมีความผิดตามกฎหมายหลายฐานความผิด มีโทษหนักถึงขั้นจำคุก 5-10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
