กรุงเทพฯ : ผู้ปกครองนักกอล์ฟเยาวชนไทย หอบหลักฐานการถูกหลอก จากผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนชื่อดัง อังษรย่อ ณ ร้องกองปราบฯ ดำเนินคดี ฐานฉ้อโกง กว่า 20 ครอบครัว สูญเงินลงทุน ซื้อ-ขาย อุปกรณ์กีฬาปันผลกำไร จัดทัวร์นาเม้น รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท หวังให้ลูกได้เป็นนักกีฬา
วันที่ 4 ธันวาคม 2566 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้ปกครอง นักกอล์ฟเยาวชนไทย รวม 24 ราย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) หลังถูกหลอกให้จ่ายเงิน เพื่อไปแข่งขันในรายการ US Kids ที่ประเทศสก็อตแลนด์ และหลอกให้ร่วมลงทุนอีกจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนชื่อดัง ชาย อักษรย่อ ณ ฐานฉ้อโกง โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เริ่มมีกลุ่มผู้ปกครองถูกผู้ก่อเหตุหลอกลวง อาศัยชื่อเสียง และเครดิตของตัวเอง แอบอ้างให้หลงเชื่อในหลายรูปแบบ ทั้งการหลอกให้ลงทุนขายอุปกรณ์กีฬากอล์ฟ แต่ไม่ส่งสินค้า หลอกให้ซื้อทัวร์พานักกีฬาไปแข่งขันรายการที่ต่างประเทศ และหลอกให้ร่วมหุ้นจัดการแข่งขัน
สำหรับการหลอกลงทุน เป็นการหลอกให้ซื้อกล้องส่องระยะกอล์ฟมาขาย โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่าลงทุนเพียง 5 แสนบาท จะนำสินค้าไปขายให้เอง รอแค่ส่วนแบ่งจากกำไร แต่เมื่อให้เงินไปแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้มีการไปลงทุนซื้อสินค้ามาขายจริง มีผู้เสียหายรวม 3 ราย
รวมทั้งมีการหลอกขายเครื่องวัดระยะกอล์ฟ และ ซิมูเลเตอร์ เมื่อผู้ปกครองสนใจซื้อมาให้ลูกใช้ฝึกซ้อม และติดต่อไปยังบริษัทของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเปิดขายสินค้าเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ จดทะเบียนถูกต้องมาตั้งแต่ปี 2562 ช่วงแรก ๆ มีผู้ที่สั่งซื้อแล้วได้ของจริง จึงเกิดความน่าเชื่อถือ เมื่อผู้เสียหายสั่งซื้อสินค้าไป จำนวน 8 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 66 จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับสินค้า และเมื่อตรวจสอบราคาของสินค้าที่สั่งไป จึงพบว่ามีราคาเพียง 4 แสนบาทเท่านั้น โดยมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อเครื่องนี้ราว 10-20 ราย
รวมทั้งยังมีการหลอกขายทัวร์นาเม้น เพื่อพาลูกไปแข่งขันโปรแกรมที่ประเทศสกอตแลนด์ ในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยผู้ก่อเหตุได้มาบอกกับกลุ่มผู้ปกครองของนักกีฬาเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกไปแข่งขันรายการนี้ประมาณ 10 คน ว่า จะดำเนินการจัดทัวร์ให้ รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม ค่าอาหาร แต่ต้องรีบจ่ายเงิน ไม่เช่นนั้นตั๋วจะราคาแพงขึ้น ซึ่งมีผู้ที่ถูกหลอกทั้งหมด 10 ครอบครัว มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท บางรายโดนหลอกให้ร่วมลงทุนเข้าหุ้นกับบริษัท จำนวน รายละ 3 แสนบาท แต่ก็ไม่มีการแบ่งกำไรให้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้ทวงถามไปยังผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้รับการตอบกลับ แต่เห็นว่าผู้ก่อเหตุยังอยู่ในวงการกอล์ฟเยาวชน มีการจัดการแข่งขันอยู่ทุกเดือน จึงต้องการดำเนินคดี เพื่อไม่ให้สามารถไปหลอกลวงใครได้อีก
เบื้อนต้นพนักงานสอบสวน พาผู้เสียหาย 3 ราย แยกไปสอบปากคำยัง บก.ปคบ.เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้จัดการที่ถูกกล่าวหารายนี้ ตามกฎหมายฐานฉ้อโกงประชาชนต่อไป
