กรุงเทพฯ : ตัวแทนผู้เสียหาย แห่ร้อง ปคม.โดนหลอกไปทำงานเป็นชาวสวนที่ประเทศสวีเดน โปรไฟล์หรู อ้างเป็นนายหน้าพาไปทำงานได้จริง จนผู้เสียหายหลงเชื่อเสียหายกว่า 9 ล้านบาท
วันที่ 8 มกราคม 2567 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตัวแทนผู้เสียหาย 5 คนจาก 40 กว่าคน เดินทางเข้าพบ พันตำรวจโทสืบพงษ์ กรุณา รองผู้กำกับสอบสวน กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เพื่อแจ้งความ หลังถูกมิจฉาชีพหลอกคนไปทำงานยังประเทศสวีเดน
โดย น.ส.รุ่งนภา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี พนักงานบริษัทเอกชน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงประมาณเดือนกันยายน 2566 ได้เห็นผู้ใช้แอปพลิเคชันติ๊กต๊อกบัญชีหนึ่ง โพสต์เชิญชวนคนไปทำงาน โดยไปเป็นชาวสวนสตอเบอรี่ที่ประเทศสวีเดน มีรายได้ดี ทำให้ผู้เสียหายสนใจจึงตัดสินใจทักไปสอบถาม ซึ่งมิจฉาชีพคนดังกล่าว อ้างว่าสามารถพาไปทำงานได้จริง มีหน้าที่เป็นนายหน้าหาคนไปทำงานที่สวนสตอเบอรี่ ผู้ที่สนใจให้กรอกใบสมัคร พร้อมกับวางเงินมัดจำ โดยตนเองได้วางมัดจำไป 35,000 บาท และจะถูกหักจากเงินเดือนจนกว่าจะครบยอด 120,000 บาท หลังจากได้ไปทำงานแล้ว ด้วยความที่โปรไฟล์ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสารการสมัครงานจริง ทำให้เหยื่อต่างหลงเชื่อและโอนเงินไปในที่สุด
จากนั้นมิจฉาชีพก็ได้มีการนัดหมายให้ผู้เสียหายมาพบที่สถานทูตสวีเดน บางคนก็นัดไปที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานัดหมายมิจฉาชีพคนดังกล่าวก็บ่ายเบี่ยงว่ากำลังขับรถเข้าไป สุดท้ายก็เชิดหนีหาย จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก ซึ่งผู้เสียหายบางคนได้เข้าแจ้งความไว้กับท้องที่ ที่อาศัยอยู่
กระทั่งต่อมาผู้เสียหายได้ทำการตรวจสอบ และพบว่ามิจฉาชีพคนดังกล่าวใช้บัญชีม้าประมาณ 2-3 บัญชี ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายสามารถตามตัวจนพบผู้ที่เป็นบัญชีม้า 1 คน โดยเป็นคุณยายที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ พอกลุ่มผู้เสียหายไปถึงบ้าน ยายคนดังกล่าวก็ตกใจ ถึงขั้นเป็นลม เพราะคุณยายอ่านไม่ออก และเขียนไม่ได้ แต่ลูกสาวของคุณยายแสดงพิรุธออกมา เพราะทันทีที่กลุ่มผู้เสียหายไปถึงบ้าน ลูกสาวของคุณยายกลับไม่ออกมาพบหน้าผู้เสียหาย และพูดกับผู้เสียหายไปว่า จากนี้จะขอสู้คดี
ทั้งนี้ มีผู้เสียหาย 1 คนแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชลบุรี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบัญชีดังกล่าวแล้วพบว่า มีเงินหมุนเวียนถึง 9 ล้านบาท
สำหรับมิจฉาชีพคนดังกล่าว พบว่า ยังคงมีการโพสต์ข้อความลงในแอปพลิเคชันติ๊กต๊อก เพื่อหลอกลวงคนไปทำงานยังต่างประเทศอยู่ ซึ่งผู้เสียหายบางคนได้เข้าไปคอมเมนต์ว่า บัญชีดังกล่าวเป็นมิจฉาชีพ แต่ก็ถูกแอดมิดของเพจลบคอมเม้นต์ออกไปอย่างรวดเร็ว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการเอาผิดกับมิจฉาชีพรายนี้ต่อไป
