กรุงเทพฯ : กสทช. บุกทลายสถานีโทรคมนาคมเถื่อน! พบลักลอบส่งสัญญาณแรงสูงข้ามประเทศไกลกว่า 40 กม. เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์
วันที่ 9 มกราคม 2567 ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสีย กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมาย, พล.ต.ท.ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลงานด้านป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี, พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผู้บัคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.4) และเจ้าหน้าที่ กสทช. ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม สถานีโทรคมาคมผิดกฎหมาย หลังตรวจพบมีการส่งสัญญาณแรงสูงข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านไกลกว่า 40 กม. ซึ่งจากการขยายผลพบเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมหารือเร่งออกประกาศ กสทช. เรื่องการอนุญาตและกำกับดูแลสถานีวิทยุคมนาคมบริเวณแนวชายแดน เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบส่งสัญญาณเอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ข่าวน่าสนใจ:
- ทีดีอาร์ไอ จัดเวิร์คชอป “ CONTENT CREATOR WORKSHOP: SYNERGY FOR CLEAN ENERGY”
- ปัญหาที่ท้าทายของ “กรมชลประทาน” กับการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงแจ้งเตือนการเกิดอุทกภัยใน “พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง”
- ททท.เชิญชม แสง สี สวยงามอลังการ “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” วันนี้-15 ธค. ฟรี
- ททท. จัดงานใหญ่ "วิจิตรเจ้าพระยา 2024" สวยงามตระการตา กระตุ้นการท่องเที่ยวส่งท้ายปีนี้
พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สอท. ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายศาล จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด โดย สอท. ร่วมกับ กสทช. เข้าตรวจสอบและจับกุมสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต พบการลักลอบส่งสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จับกุมผู้กระทำผิดพร้อมของกลาง ประกอบด้วย เครื่องวิทยุคมนาคม, อุปกรณ์การจ่ายสัญญาณพร้อมกระแสไฟฟ้า และสายนำสัญญาณพร้อมหัวต่อจำนวนมาก ซึ่งเป็นความผิดฐาน “มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม และตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต” ตาม พรบ.วิทยุคมนาคมฯ และฐาน “ประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตแบบที่หนึ่งโดยไม่ได้อนุญาต” ตาม พรบ.ว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ ในการนี้ชุดจับกุมได้ทำการรื้อถอนอุปกรณ์ทั้งหมดนำส่ง สภ. แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ได้กำชับไปยังตำรวจทุกหน่วย ให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว การลักลอบตั้งสถานีโทรคมนาคมผิดกฎหมายในลักษณะดังกล่าว เพื่อสกัดกั้นไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้าถึง สัญญาณได้โดยง่ายเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ศ.นพ.สรณ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ขานรับนโยบายของภาครัฐในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ ที่มีฐานปฎิบัติอยู่ตามแนวชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ณัฐธร ขับเคลื่อน การทำงานร่วมกับ ตร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมามีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการขับเคลื่อนในการแก้ไขกฏหมาย และระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้าน พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการกวาดล้างจับกุมสถานีโทรคมนาคมผิดกฎหมาย, จับกุมแหล่งจำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคมผิดกฎหมาย, การเร่งจัดระเบียบเสาสัญญาณตลอดแนวชายแดนทั่วประเทศ ไม่ให้สัญญาณข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตัดปัจจัยที่เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และองค์กรอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ที่มาตั้งฐานอยู่ตามแนวชายแดน ควบคู่ ไปกับการออก 7 มาตรการที่สำคัญของ กสทช. อาทิ การระงับการโทรเข้าจากต่างประเทศในบางรูปแบบ การจัดทำบริการ *138 ปฏิเสธ การรับสายต่างประเทศ, การจัดทำระบบลงทะเบียนสำหรับผู้ส่งข้อความจำนวนมาก, การจำกัดลงทะเบียนซิมการ์ดจำนวนมากจะต้องทำการ ยืนยันตัวตน และ การยกเลิกการส่ง SMS จากสถาบันทางการเงินแนบลิงค์ต่าง ๆ
จากการวิเคราะห์เชิงเทคนิคโดยผู้เชี่ยวชาญของ กสทช. พบว่า สถานีโทรคมมาคมเถื่อนที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ สามารถแพร่สัญญาณแรงสูงทั้งในส่วนของ สัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านไกลกว่า 40 กิโลเมตร รองรับผู้ใช้งานพร้อมกันได้เป็นจำนวนหลักพันราย ครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจหลายร้อยตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์แฝงตัวอยู่เป็นจำนวนมาก เรื่องนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไข
โดยล่าสุด กสทช. ได้ยกร่างประกาศ กสทช. เรื่อง การอนุญาตและกำกับดูแลสถานีวิทยุคมนาคมบริเวณแนวชายแดน กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ชัดเจน สำหรับผู้ประกอบการที่มีความประสงค์จะตั้งเสาสัญญาณใหม่ในพื้นที่ชายแดน กำหนดให้มีระยะร่นจาก เส้นเขตแดน และต้องหันทิศทางแพร่สัญญาณเข้ามาในประเทศไทย พร้อมกำชับให้ สำนักงาน กสทช. ส่วนภูมิภาคทุกแห่ง ออกตรวจสอบ สถานีโทรคมนาคมและเสาสัญญาณในพื้นที่รับผิดชอบ หากพบการแพร่สัญญาณข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ให้รีบประสานผู้ประกอบการแก้ไข ปรับปรุง หากผู้ประกอบการรายใดละเลยไม่ปฏิบัติตาม ให้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกราย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: